ลอร์ดจิมส์

มื้อกลางวัน

Weekend brunch ประทับใจทุกสิ่งอย่าง ร้านอาหาร Lord Jims อยู่ในโรงแรมโอเรียนเต็ลแมนดารินกรุงเทพฯ กลางวันจะมีบริการอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์นานาชาติ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและประทับใจมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในใจเสมอมา เพราะนอกจากจะได้ทานของดีของอร่อยอย่างเต็มอิ่มแล้ว ยังได้ความสบายใจจากบริการและบรรยากาศที่ดีของที่นี่เสมอ ร้านอยู่ชั้น 2 ติดริมน้ำ แต่ไม่ค่อยได้ชมวิวเท่าไหร่ มัวแต่ทาน การบริการ: ถ้าไม่เอ่ยชื่นชมคงไม่ได้ เพราะเสน่ห์อีกอย่างของ บุฟเฟต์ Lord Jim คือการให้บริการของพนักงานทุกคน ที่เนียบ สุภาพและดีเยี่ยมจริงๆ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารดูดี พรีเมี่ยมทุกชิ้น ใส่ใจทุกรายละเอียด สมกับเป็นร้านอาหารของโรงแรมชั้นนำระดับโลกอย่างโอเรียนเต็ล ไลน์อาหาร: ที่นี่ดูแล้วไลน์อาหาร อาจจะไม่เยอะมากเทียบกับบุฟเฟต์โรงแรม 5 ดาวหลายที่ แต่ Lord Jim เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ทุก station ทุกเมนู มีแต่ของดีของอร่อย ซีฟู๊ด: weekend brunch จะมีพวก Canadian ล๊อปสเตอร์, ปู, กั้ง, หอยนางรม เพิ่มขึ้นมาจากไลน์อาหารวันธรรมดา ทุกอย่างสด เนื้อแน่นเด้งหวานมาก ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดบ้านเราเนี่ยหล่ะค่ะ เลิศสุด ทุกอย่างจะเสริฟแบบแกะมาเรียบร้อยแล้ว แค่เอาส้อมจิ้มทานง่าย สลัด: จะอยู่ในส่วนใกล้กับทางเข้ามากที่สุด สลัดบาร์ที่นี่ สวยงาม และคัดสรรทุกอย่างมาเป็นอย่างดี มีพนักงานดูแลแนะนำและจัดจานสลัดให้ด้วย เพราะทั้ง dressing และผักมีเยอะมาก น่าทานไปหมด แถมยังมี เมนูส้มตำไว้ให้ต่างชาติทานด้วย Foie gras: ตับห่านชิ้นใหญ่หนาๆ ตักกันให้เต็มที่ ไม่เหมือนที่อื่นที่เราต้องไปสั่งก่อน หรือค่อยๆ ทำไม่ให้เราตักเยอะ หรือจัดใส่จานเล็กๆ ที่ละชิ้นสองชิ้น อันนี้ทางร้านจะทอดออกมาเรื่อยๆ เลย Sushi bar: วันนี้รู้สึกไม่ค่อยประทับใจเท่าครั้งก่อนๆ แต่ก็ยังคงคุณภาพดีอยู่ ซาชิมิมีหอยปีกนกด้วยนะ ของนึ่ง: มีปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วและกุ้งลายเสือนึ่ง รสชาติดีถึงแม้ว่าเนื้อปลาหิมะจะไม่ค่อยแน่นและหวานมันนัก ซุป เทมปุระ และพาสต้า: วันนี้ไม่ได้โฉบเข้าไปมุมนี้เลย จากที่เคยทานมา เป็น station ที่ชอบน้อยที่สุด Roasted meat: มีให้เลือกทั้งเนื้อออสเตรเลีย ขาแกะ เ ป็ด แฮม และปลา มุมของหวาน: ขนมไซส์มินิมีให้เลือกมากมาย มาตรฐานเดียวกับ Mandarin Oriental Shop คิดดูซิว่า มันคุ้มขนาดไหน ได้เลือกทานขนมหลายอย่างตามชอบใจขนาดนี้ ยังไงต้องโทรจองก่อนล่วงหน้า โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์นี้ เต็มยาวเป็นเดือนๆ เลย และมี dress code คือ smart casual แค่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้น แค่ไม่หนีบแตะ ไม่ใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ก็ได้อยู่ ราคาบุฟเฟต์วันธรรมดา 2,119 เน็ต ส่วนเสาร์ อาทิตย์ ราคา อยู่ที่ 2,943 บาท น้ำเปล่า ชา กาแฟ รวมอยู่ในราคาบุฟเฟ่ต์แล้ว ราคาดูสูงอยู่ แต่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์