เตี๋ยวคอปเปอร์ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือระดับพรีเมี่ยมเทียบมวยได้กับ ทองสมิทธ์ ที่ใครหลายๆ คนรู้จักกันดี โดยเกิดจากความตั้งใจของคุณ วีระพงษ์ พินิจศักดิ์กุล และครอบครัว ที่หลังจากประสบความสำเร็จถล่มทลายกับร้าน Copper Buffet ไปแล้ว จึงมาต่อยอดใหม่กับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือร้านนี้ ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะขยายสาขาไปต่างประเทศได้ แต่ถ้าคิดว่าจะมีแค่เมนูก๋วยเตี๋ยวเรือ คงจะธรรมดาเกินไป ดังนั้น จะมีการยกเมนูซิกเนเจอร์บางอย่าง ที่ขายดีมาก มาลงที่ร้านนี้ด้วยเช่นกัน ตำแหน่งร้าน จะอยู่ใน The Sense ปิ่นเกล้า ชั้น G จอดรถยนต์ฟรีได้ 4 ชั่วโมงหากมาทานร้านนี้ โดยร้านเปิดรับคิวตั้งแต่ตอน 11:00 น. และจะเริ่มให้เข้าร้านได้ตั้งแต่ 11:30 เป็นต้นไป แนะนำว่าถ้าหากไม่อยากรอนาน ควรจะมาจองคิวตั้งแต่ก่อน 11 โมง และเลือกเมนูอาหารต่างๆ ให้เสร็จเร็วที่สุด เพราะแต่ละเมนูเค้าใช้เวลาทำนาน เพื่อให้ได้อาหาร ที่อร่อยที่สุด ทุกจาน สำหรับเมนูอาหาร ประกอบไปด้วย ก๋วยเตี๋ยวเรือ ไม่ว่าจะเป็นหมู หรือ เนื้อ โดยจะมีทั้งแบบ เนื้อล้วน หรือเป็นส่วนอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ ยังมีเมนูข้าวกะเพรา ของทานเล่นต่างๆ อย่างที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือจะมี บอกได้เลยว่า แต่ละเมนู ไม่ธรรมดาจริงๆ เริ่มต้นกันด้วย เต๋าทองคำ ราคา 49 บาท ของทานเล่นที่เห็นแล้วก็ต้องร้องอ๋อ เพราะมันคือ กากหมู เมนูไม่ชวนผอม แต่มีน้ำลายไหล ทางร้านจะทอดให้ฟูๆ ไม่แข็งกระด้าง มีน้ำมันหมูหลงเหลืออยู่นิดหน่อย เวลาทานแล้วเราจะรู้สึกฟูๆ หอมๆ มีความกรอบนิดๆ จะทานเปล่าๆ ก็อร่อย แต่ถ้าเด็ดสุด คือแช่ในซุปก๋วยเตี๋ยวแปปนึง แล้วตักขึ้นมาทาน จะให้รสสัมผัส ละลายในปาก นึกถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็ต้องนึกถึง ลูกชิ้นปิ้ง ซึ่ง เตี๋ยวคอปเปอร์ เอง ก็ใจดีมีให้เลือกทั้งหมู และเนื้อ อยากได้เป็นเนื้อล้วนหรือเอ็นผสม ก็มีทั้งคู่ แนะนำว่าถ้าชอบเคี้ยวๆ ควรสั่ง ลูกชิ้นเอ็นเนื้อปิ้ง ราคา 89 บาท จัดมาให้จุกๆ ถึง 3 ไม้ ต่อไม้มีถึง 5 ลูกด้วยกัน ปิ้งได้กำลังดีมีกลิ่นหอมนิดๆ ทานเปล่าๆ จะรู้สึกเค็มหน่อยๆ แต่ถ้าจิ้มกับน้ำจิ้ม จะได้รสชาติหวานมาตัดด้วย ทานได้เพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็หมดซะแล้ว สั่งเพิ่มละกัน~~ ก่อนที่จะไปจานก๋วยเตี๋ยวนั้น เราต้องรู้ก่อนว่า ที่ร้านมีเส้นอะไรให้สั่ง และเลือกระดับความเผ็ดได้หรือเปล่า ซึ่งเส้นนั้น จะมีให้เลือก 4 อย่าง คือ เส้นหมี่ เส้นเล็ก บะหมี่ไข่ และวุ้นเส้นญี่ปุ่น ส่วนระดับความเผ็ดนั้น ระดับ 1 จะเป็นแค่ใส่พริกน้ำส้ม คนไม่ทานเผ็ดทานได้ แต่ถ้าระดับ 2 คือปรุงพริกแสบปากนิดๆ เกือบลืมไป ร้านนี้เค้าไม่มีเครื่องปรุงให้นะ และแล้ว ก็มาถึงจานหลักจานแรก อย่าง เตี๋ยวเรือน้ำตกสันคอออสเตรเลียวากิว พร้อม 4 ทหารเสือ ราคา 369 บาท เมนูนี้ ผู้เขียนเลือกเส้นบะหมี่ไข่ และความเผ็ดระดับ 1 หน้าตาดูแน่น เครื่องจัดเต็ม โดยจะมีเนื้อสัตว์อย่าง เนื้อสันคอออสเตรเลียวากิว ชิ้นโตสีออกดำหน่อยๆ นุ่มอร่อย ออกแรงเคี้ยวนิดๆ ลูกชิ้นเนื้อหนึบๆ เอ็นเนื้อตุ๋น แก้มวัวตุ๋น และลิ้นวัวตุ๋น สามอย่างหลังนี้คือ สุดติ่ง! เอ็นนุ่มมาก ไม่ต้องเคี้ยวเลย แก้มวัวตุ๋นนุ่มอร่อยมีกลิ่นนมนิดๆ และลิ้นวัวคือแทบจะละลายในปาก ดับกลิ่นสาบได้ดี แทบไม่มีกลิ่นเลย ซุปรสชาติออกเค็มหวานตามต้นฉบับก๋วยเตี๋ยวเรืออย่างที่ควรจะเป็น ส่วนเส้นเอง ถึงแม้จะแช่น้ำซุปไว้ก็จะไม่เละหรืออืด ทางร้านใช้เทคนิคแบบเดียวกับร้านราเมน รวมทั้งมีการทดสอบมาแล้วว่า บะหมี่ที่ดี ควรจะมี Texture ที่หนึบ ไม่เละ กลิ่นไข่ต้องชัด ซึ่งจานนี้ ทำออกมาได้ สมบูรณ์แบบ ถ้าคิดว่าจานแรกก็อร่อยแล้ว จานต่อไปมีว้าวกว่า กับ เตี๋ยวแห้งเนื้อริบอายวากิวญี่ปุ่น A5 ราคา 699 บาท เมนูที่แพงที่สุดในร้าน แต่เป็นเมนูที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง จานนี้เลือกเส้น เป็น วุ้นเส้นญี่ปุ่น ซึ่งจะเพิ่มราคาอีก 19 บาท หน้าตาเรียบงายสุดๆ เพราะมีแค่ เส้น ถั่วลิสงป่น กากหมู กากเจียว ผักชีฝรั่งซอย และวากิวชิ้นโตๆ สีชมพูอีก 2 ชิ้นที่ผ่านการอาบน้ำซุปมาแล้ว ตัวเส้นจะคลุกกับซีอิ้วมาระดับนึง มีความเปรี้ยวนิดๆ และหนึบมากๆ ใครชอบกินเส้นหนึบๆ ถูกใจสิ่งนี้แน่นอน เนื้อวากิวเอง ก็นุ่ม ละลายในปากแทบจะในทันที ขนาดชิ้นใหญ่ขนาดนี้ 699 คือคุ้มสุด ถ้าสั่งเป็นแบบน้ำ ทางพนักงานจะแยกซุปมาราดให้ต่างหากก่อนทาน กินเนื้อวัวไปเยอะแล้ว ลองมาดูฝั่งเนื้อหมูกันบ้าง กับเมนู เตี๋ยวแห้งหมูสันนอก S-Pure พร้อม 5 ทหารเสือ ราคา 189 บาท สำหรับคนไม่ทานเนื้อ ร้านนี้ก็มีหมูเหมือนกัน โดยหมูที่ใช้จะเป็นหมูของ S-Pure ที่ปลอดสาร ไร้การเร่งด้วยสารใดๆ การันตีว่ากินแล้วไม่ทำร้ายร่างกาย เสิร์ฟมาในรูปแบบ 6 ส่วนด้วยกัน คือ สันนอกสไลด์บางเหมือนเบคอน นุ่มอร่อยแบบไม่ต้องปรุง แก้มหมูตุ๋นที่ยังเหนียวนิดๆ เนื้อขั้วตับหมูนุ่มๆ ตับหมูที่ผ่านการดึงเลือดออกแล้ว แทบไม่มีกลิ่นคาวเลือด เอ็นแก้วหมูเคี้ยวนิดๆ กึ่งละลายในปาก และลูกชิ้นหมูรสสัมผัสที่คุ้นเคย เส้นเล็กจะผ่านการปรุงด้วยซอสแล้ว รสสัมผัสดี ไม่มีเละ เพราะผ่านการน็อกน้ำเย็น แบบเดียวกับบะหมี่ไข่ วางใจได้เลยว่าจะไม่เจอเส้นเละๆ จบของคาวกันไปแล้ว ควรรจะมาต่อด้วยของหวานกันบ้าง เมนูแรกที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือต้องมี คือ ขนมถ้วย แต่ร้านนี้จะมีผสมทรัฟเฟิลลงไปด้วย จึงกลายเป็น ขนมถ้วยทรัฟเฟิล ราคา 39 บาท ต่อถ้วย ตัวใบเตยและกะทิ จะมีผสมเห็ดทรัฟเฟิลนิดหน่อย แต่พอผสมแล้วกลิ่นและรสยังไม่เด่นพอ ทางร้านเลยทำดิปด้านบน ที่ผ่านการอบควันเทียนและผสมทรัฟเฟิลลงไปอีก แปะทองชิ้นจิ๋วๆ เพื่อความสวยงาม รสชาติทรัฟเฟิลค่อนข้างเด่นเลย แต่เราจะยังรู้สึกได้ถึง กลิ่นอบควันเทียน ใบเตย และกะทิ ทั้งหมดไปด้วยกันได้ดี แค่อาจจะรู้สึกแปลกๆ ตอนที่ทานครั้งแรก แต่ถ้าต่อถ้วยที่ 2 แล้วละก็ ถ้วยที่ 3 4 5 ตามมาแน่นอน ใครคิดถึงเมนูบิงซู ที่เตี๋ยวคอปเปอร์ก็มีการนำเมนูของหวานพื้นบ้านไทย หลายเมนูมาผสมผสานกับบิงซูจนออกมาเป็นเมนูใหม่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ มุกหอมอันดามัน หรือ ขนมโคน้ำกะทิบิงซู ราคา 189 บาท ตัวบิงซูจะมีรสชาติอบควันเทียนเหมือนขนมโค ส่วนขนมโคเองจะมีสีฟ้าจากอัญชัน ไส้ด้านในจะเป็นมะพร้าวเคี่ยวน้ำตาล โรยด้วยเนื้อมะพร้าวหนึบๆ ปิดท้ายมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี นอกจากของคาว และของหวานที่รีวิวไปก่อนหน้าแล้ว เครื่องดื่มร้านนี้เองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างเช่น บ๊วยสไปร์ท ราคา 89 บาท ทางร้านจะนำบ๊วยดองเค็มไปทำเป็นน้ำก่อน แล้วนำมาแช่แข็งให้เป็นก้อนกลมๆ จากนั้นเทสไปร์ทลงไป แล้วคนให้เข้ากัน จะได้ความซ่า ความเปรี้ยว และความเค็ม 3 อย่างที่รวมกันแล้วอร่อย แก้เลี่ยน และปรับรสสัมผัส ก่อนไปทานเมนูอื่นๆ ต่อ สรุปรสชาติอาหารโดยรวม ถือว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ด้วยขั้นตอนและการทดลองหลายร้อยรูปแบบ กว่าจะออกมาเป็นแต่ละเมนูใน #เตี๋ยวคอปเปอร์ ได้นั้น ถือว่าได้คุ้มเสียจริงๆ คนทานจะไม่มีวันผิดหวังกับเมนูใดๆ ก็ตามของร้าน ปริมาณถือว่ากลางๆ ไม่ได้เยอะมาก วัดกันที่คุณภาพและรสชาติจริงๆ ส่วนการบริการ อันนี้ไม่ต้องเป็นห่วง มาตรฐานเดียวกันกับ Copper ทุกอย่าง 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี