มื้อกลางวัน

ร้านโอมากาเสะที่ชั้น 3 ของ Central World ที่ถ้าใครเห็นร้านแล้วจะจำได้ทันที ด้วยเอกลักษณ์ตัวร้านที่เป็นกระจกและมีผ้าม่านกั้นเล็กๆ บางช่วงก็จะแน่นร้าน แต่อันนี้มาวันธรรมดาก็เลยค่อนข้างโล่งและเป็นส่วนตัวระดับนึงเลยทีเดียว สำหรับอาหารก็จะขึ้นอยู่กับ Season เลย อย่างช่วงที่มาทานนี้ก็จะเป็นช่วง Autumn ที่เริ่มจะมีปลาแปลกๆ และเนื้อปลาบางชนิดเองก็จะเริ่มมีไขมันสะสม โดยวิธีการมาทาน จะ Walk in มาเลยก็ได้ หรือจะจองล่วงหน้าผ่าน Chope ซึ่งจะมีเก็บมัดจำไว้ 500 บาทต่อท่าน ซึ่งหักออกจากค่าอาหารอีกที หากมาทานด้วยโอกาสพิเศษต่างๆ สามารถ note ไว้ได้  ในส่วนของเมนู Omakase จะมีเริ่มต้นตั้งแต่ 10 Course แบบ Lunch Set อันนี้จะตกคนละ 1500 เหมาะกับเจอเพื่อนและอยากนั่งคุยชิวๆ ส่วนใครอยากทานจริงจัง ก็จะมีตั้งแต่ 14 / 16 และ 18 คำ โดยราคาก็จะบวกเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าทางร้านแนะนำก็จะเป็น 16 คำ ในราคา 4000 นอกจากซูชิแล้ว จะมีของย่าง ต้ม ทอด ซาซิมิ เพิ่มมาด้วย รวมเครื่องดื่มอย่างชาเขียวเรียบร้อยแล้ว  เริ่มต้นกันด้วยเซ็ต ZENSAI ประกอบไปด้วยของ 2 อย่างคือ SATOIMO UMANI เป็นเผือกที่นำมาปั้นเป็นแป้งก้อนสี่เหลี่ยมแล้วโรยด้วยสาหร่าย จะมีความนุ่มๆ ไม่เฝื่อน อูมามินิดๆ ส่วนตัวคิดว่าแห้งไปนิดและ AGEGINNAN หรือ เม็ดแปะก๊วยสดที่นำไปย่าง เสิร์ฟแบบเสียบกิ่งไม้ ลืม Texture ปกติที่ออกนุ่มๆ หรือแข็งๆ ไปได้เลย ด้วยความเป็นแบบสดเลยจะได้เนื้อที่หนึบๆ ด้วย โรยเกลือนิดนึงเพิ่มความอร่อย ใครชอบซาชิมิก็น่าจะถูกใจกับปลา ISHIDAI USUZUKURI ปลาเนื้อขาวที่รสชาติดี ทานคู่กับพอนสึ เติมเมนไทโกะและต้นหอมลงไปนิดเพิ่มมิติเนื้อปลา ส่วนตัวคิดว่ายังมีความคาวอยู่ แต่ไม่โดดมาก พอเจอซอสก็กลบค่อนข้างหมด จานนี้เชฟไม่ได้เสิร์ฟวาซาบิด้วยเพราะอาจจะไปกลบรสหวานของปลาหมด ก่อนจะไปซูชิ ทางร้านจะเสิร์ฟปลาย่าง ก็คือ Sawara Saikyo Yaki ปลาตระกูลแมคเคอเรล นำไปย่างหนังกรอบ เนื้อออกแห้งๆ ทาด้วยซอสเทอริยากิ รสชาติออกหวานจากซอสพอสมควร ไม่ต้องจิ้มอะไรเพิ่มแล้ว ส่วนตัวคิดว่าอันนี้ทางเชฟจงใจเสิร์ฟเหมือนกินปลาไหลย่างที่ไม่มีก้าง ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์ แต่ส่วนตัวอยากให้รสชาติเบาลงกว่านิด หรืออาจจะเสิร์ฟพริกย่างมาเพิ่มอีกสักชิ้นเพื่อปรับลิ้นก่อนไปจานซูชิ มาถึงจานหลักอย่างซูชิที่มีด้วยกันถึง 8 คำ • SANMA ผิวสีเงินที่ตัดกับแสงไฟแล้วสะท้อนขึ้นมา ให้ความโดดเด่นและดูน่าทานมาก รสชาติความเป็นเหล็กๆ แสบลิ้นมีอยู่นิดๆ แต่ส่วนตัวคิดว่ารสชาติคำนี้หนักเกินไปนิดสำหรับการเริ่มคอร์สหลัก ถ้าไปเสิร์ฟหลังอูนิน่าจะดีกว่า แต่ทั้งนี้เราก็เคารพการเรียงลำดับของร้าน เพราะมันก็ไม่ได้ทำให้คำถัดไป ดรอปลงแต่อย่างใด • KINMEDAI กระพงแดง เมนูยอดฮิตในร้านอาหารญี่ปุ่น เบิร์นหนังให้กรอบนิดๆ ก็อร่อยแล้ว จานนี้ทางเชฟเบิร์นทั้งเนื้อด้านบนและหนัง มีความกรอบเล็กๆ ไขมันโดดเด่นขึ้นมาทันที • SUMI IKA หมึกญี่ปุ่นสับเป็นชิ้นๆ พอนำมาเสิร์ฟเป็นซูชิเลยจะยากหน่อยเพราะเนื้อพร้อมที่จะแยกกันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่จานนี้เชฟจัดการได้ดี ความหนึบมันยังรักษาไว้ได้ ถือว่าเหนือกว่าคาดเลย • ANKIMO NITSUKE ตับปลาอังกิโมะ ของทำยากอีกจานที่ร้านนี้ทำออกมาได้ดี รสชาติซอสค่อนข้างหนักไปสักหน่อยซึมไปถึงด้านใน แต่ก็ชดเชยด้วยรสชาติที่หวานหอม ไม่มีกลิ่นสาบเลย ซอสโชยุดีออกไปทางหวานๆ Texture ลื่นๆ นุ่มๆ ดีเช่นกัน • SUJIKO MISOZUKE ไข่แซลมอนที่สีไม่ได้ส้มแปร๋นๆ แบบที่เคยเห็น อันนี้ออกไปทางสีน้ำตาลหม่นๆ รสชาติดี ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบเปาะแปะในปากเหมือนกับที่เคยทาน อันนี้ออกไปทางละลายและมีเปาะเบาๆหากกัดโดน เป็นไข่แซลมอนที่ให้รสชาติลีนมากๆ • SHIRO EBI กุ้งหวานสับเป็นชิ้นๆ ตอนแรกมีแจ้งทางร้านว่าไม่ทานกุ้งเป็นตัวๆ ทางร้านเลยเสิร์ฟเป็นสับซะเลย มันกุ้งหวานชัดเจน แถมมีอูนิโปะทับให้อีกชิ้น เข้ากันสุดๆ • MA TSUBUGAI หอยสังข์ที่หน้าตาอาจจะดูซีดๆ เพราะต้องต้มให้สุก เสิร์ฟกับข้าว แนะนำว่าให้เติมวาซาบิเพิ่มเนื่องจากหอยมีรสชาติไปทางจืด Texture ดีมีความกรุบกรอบ ไม่แข็งกระด้าง โดยรวมให้จานนี้เทียบเท่ากับหอยปีกนกเลย • UNI จานเด็ดในเซ็ตแรกนี้ ไม่ผิดหวังเพราะให้มาแบบพูนๆ โปะข้าวเกือบมืด เชฟตั้งใจปั้นข้าวให้ไม่แน่นมากทำให้เวลาคีบอาจจะมีเละได้ แนะนำว่าให้วางบนมือของผู้ทานเลยก็ได้ รสชาติดีชัดเจน ไม่แน่ใจว่าเป็นบะฟุนหรือเปล่าแต่รสชาติเข้มข้น สดไม่มีกลิ่น จบซาซิมิชุดแรกแล้ว ทางร้านเสิร์ฟโซบะเย็นในชื่อเมนู CHA SOBA HOTATE เส้นทำออกมาได้ดีไม่มีกลิ่นหืน พอนสึซอสที่ใช้ก็รสชาติดี เข้าถึงเนื้อเส้นเป็นอย่างดี ส่วนหอยเชลล์ย่างนานไปสักหน่อย ติดแห้งเลยไม่ประทับใจ ยังดีที่มีไข่แซลมอนท๊อป ต่อกันด้วยซาซิมิชุด 2 ก็จะมี • MADAI ปลากระพงของญี่ปุ่น มาแบบดิบๆ ไม่ได้ผ่านการ Aging เบิร์นไฟนิดๆ ท๊อปด้วยต้นหอมและเมนไทโกะนิดหน่อย ส่วนตัวคิดว่าอันนี้คาวแบบชัดที่สุดในวันนี้เลย ถือว่าผิดหวังสำหรับปลาชั้นดีแบบนี้ • OOTORO ถือว่ามาดีเลยสำหรับจานนี้ เสิร์ฟแบบดั้งเดิมที่ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรมาก นอกจากท๊อปด้วยวาซาบิดอง เนื้อปลาฉ่ำ ไขมันแน่น กลิ่นคาวไม่มี ละลายในปากแบบไม่ทันตั้งตัว แนะนำให้ทานขิงดองหลังทานเสร็จเพื่อเคลียลิ้น • ANAGO ปลาไหลที่ไม่ได้เสิร์ฟแบบย่าง แต่อันนี้นำไปต้ม ซึ่งไม่ค่อยเห็นร้านไหนทำสักเท่าไร เนื้อปลาจะออกขาวๆ ทาด้วยซอสปลาไหล ห่อกับข้าว เสิร์ฟคู่กับแตงกวาซอยที่หั่นเป็นเส้นฝอยๆ ราดด้วยซอสปลาไหลพร้อมโรยงาขาว เนื้อนุ่มไม่มีกลิ่นสาบ มีก้างเล็กๆ อยู่แบบสัมผัสได้ แต่ไม่ทิ่มคอ ซอสดี ที่ชอบสุดคือแตงกวากับงาขาว ทานตัดกับเนื้อปลาคือดีมาก • NEGITORO NAAGAIMO เป็นจานที่น่าจะคุ้มที่สุดในมื้อ หากคิดว่าจานก่อนหน้าๆ ทำมาแล้วยังไม่อิ่ม จานนี้ตอบโจทย์เลย ตัวทูน่าสับใส่ต้นหอมและเครื่องต่างๆ ท๊อปด้วยมันมือเสือที่หั่นเป็นเต๋า ๆ และไข่แซลมอนสีเหลืองจากเทราต์ซึ่งไม่เคยเห็นร้านไหนเสิร์ฟสิ่งนี้มาก่อน มาพร้อมกับสาหร่ายย่างและวาซาบิ เวลาทานก็ตักแบ่งปาดบนสาหร่าย เติมวาซาบิ ห่อเป็นโรลหรือก้อนแล้วแต่สะดวกแล้วนำเข้าปาก รสชาติมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอูมามิ กรอบๆ เค็มนิดๆ และเผ็ดฉุน  • ATSU YAKI TAMAGO ไข่หวานที่ทำจากมันมือเสือ ชิโระเอบิสับ และไข่ ขึ้นรูปออกมาเป็นเค้กก้อนสี่เหลี่ยม เสิร์ฟมาด้วยกัน 2 ชิ้น เป็นจานที่หาทานได้ง่ายในมื้อโอมากาเสะ รสชาติใช้ได้ไม่มีกลิ่นกุ้งเหลืออยู่เลย จบจานหลักแล้ว ล้างปากสักนิดด้วย NAMEKO AKADASHI ซุปมิโซะแดงที่ต้มกันใหม่ๆ ใส่เห็ดนาเมโก หรือภาษาอังกฤษในชื่อ butterscotch mushroom ซึ่งจะพบได้ในป่าของญี่ปุ่น เป็นเห็ดต้นเล็กๆ ที่ไม่มีกลิ่น มีความกรอบเล็กๆ ในซุปเองยังใส่ใบมิโสะและพริกแบบเดียวกับจานปลาย่าง ทำให้รสชาติโดยรวมออกไปทางป่าๆ ส่วนตัวคิดว่าหนักเค็มไปนิด ไฟน่าจะแรงไปหน่อย ปิดท้ายด้วยของหวานซึ่งประทับใจมากกับ KABOCHA MOCHI ICE CREAM เป็นโมจิสอดไส้ไอศครีมวานิลลารสชาติเข้มข้น แป้งออกหนึบๆ ทานเข้ากันกับองุ่นไชร์มัสแคตที่ออกหวานฉ่ำ ตัดด้วยมันม่วงอบแห้งและมาร์ชเมลโล เป็นการปิดมื้ออาหารได้ดีทีเดียว โอมากาเสะร้านนี้อาจจะไม่ได้เป็นร้านที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทานมา ด้วยวัตถุดิบก็ดี การจัดเรียง การนำเสนอจากเชฟเองก็ไม่ได้ชัดเจนมากๆ แนวๆ แบบเชฟสาย Introvert ร้านนี้อาจจะเหมาะกับคนที่ทานมาหลายร้านแล้ว หรือเน้นกินไม่เน้นรับรู้อะไรมาก ส่วนใครที่เพิ่งเริ่มมาสายนี้ แนะนำไปร้านอื่นที่อาจจะเอนเตอร์เทนได้ดีกว่า รสชาติโดยรวมถือว่าดี แต่มีบางจานที่ต้องปรับปรุงรสชาติเพิ่มอีกสักหน่อย ลืมบอกไปว่าจริงๆ ร้านนี้มีแบบ A la carte ด้วยนะ เพียงแต่คนจะเห็นจากหน้าร้านที่ดูเหมือนเป็นร้านโอมากาเสะเฉพาะทาง 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์

  • 0
  • 0
24/09/26

Other Reviews