มื้อกลางวัน

ย่านท่าทราย ใกล้มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์บนถนนเส้นประชาชื่นนี้มีชาวจีนพักอาศัยกันอยู่เยอะ ทั้งเหล่านักศึกษาชาวจีนและบริษัทห้างร้านต่างๆ รวมไปถึงโรงเรียนสอนภาษาจีน เป็นชาวจีนที่มาจากเมืองจีนแท้ๆ ไม่ใช่เพียงเป็น “ลูกหลานชาวจีน” อย่างในเยาวราชหรือสำเพ็ง ย่านนี้จึงเป็นย่านที่มีร้านอาหารจีนแบบแท้ทรูอยู่หลายเจ้า ทำโดยคนจีน ขายชาวจีนในชุมชน ด้วยราคาสูสีกับ street food ไทยๆ ให้หนุ่มสาวนักศึกษาจีนแวะมาทานอาหารรสเดียวกับที่บ้านเกิดกันได้วันละ 3 มื้อแบบสบายๆ เข้าถึงง่าย อย่างร้าน Womama Ramen นี้ล่ะค่ะ ****-ทำเลที่ตั้ง/บรรยากาศ-**** ร้านอยู่ในซอยประชาชื่น 12 ถัดจาก Urban Square และ Mini Big C เข้าไปนิดเดียวค่ะ ตัวร้านขนาด 1 คูหา บรรยากาศแบบร้านข้างทาง แต่ก็มีติดแอร์ เปิดพัดลมให้นั่งสบาย ที่เก๋คือมี QR Code ตั้งไว้ตามโต๊ะให้เปิดดูเมนูกันในมือถือได้เลยด้วย (แต่เมนูกระดาษก็มีให้นะ) แค่เดินเข้าร้านก็พอดูออกว่าเน้นอาหารจีนแบบโฮมเมด ประมาณว่าคุณแม่ชาวจีนเข้าครัวทำให้เองเลย หน้าร้านมีหม้อหุงข้าวและเตาปิ้งพิซซ่าจีน โต๊ะด้านในก็มีชงน้ำเก๊กฮวยและน้ำสมุนไพร หลังร้านมีขายสินค้าพวกขนมขบเคี้ยวและของชำนำเข้าจากเมืองจีน มีเอาตัวอย่างฉลากมาแปะฝาโชว์ไว้ให้ชี้สั่งซื้อได้สะดวก แถมยังมีขายเครื่องสำอางค์อีกด้วยนะ (อิ่มท้องไม่พอ ต้องสวยกลับไปด้วยจ้า) เรื่องค้าขายเก่งนี่ต้องยกให้ชาวจีนจริงๆ อาหมวยเจ้าของร้านอัธยาศัยดีมาก พูดไทยได้แต่ไม่ค่อยคล่อง บรรดาลูกค้าที่เข้ามาก็ชาวจีนล้วนๆ นั่งกันเต็มร้าน ได้ยินแต่ภาษาจีนอยู่รอบตัวเลยล่ะค่ะ ****-เมนูที่สั่ง-**** เห็นชื่อร้านว่าราเมน คนไทยอย่างเราๆก็มักนึกถึงราเมนญี่ปุ่นมาก่อน แต่อันที่จริงแล้วราเมนมีต้นกำเนิดมาจากเมืองจีน ซึ่งชาวญี่ปุ่นได้นำมาดัดแปลงจนเป็นรสชาติแบบของตนเองในภายหลัง ดังนั้นราเมนที่ร้าน Womama Ramen ที่เป็นร้านคนจีนแท้ๆนั้นจะว่าไปแล้วก็เป็นราเมนจีนแบบดั้งเดิมที่เป็นบรรพบุรุษราเมนญี่ปุ่นนั่นเอง นอกจากราเมนแล้ว ที่ร้านยังมีเมนูของทานเล่น กับข้าว โจ๊ก ติ่มซำ หมั่นโถว ซาลาเปาสูตรโฮมเมด และเกี๊ยวจีนซึ่งอาหมวยที่ร้านก็บอกว่าคุณแม่เป็นคนทำแป้งเองอีกด้วย ● เกี๊ยวต้มไส้กุ้ง ไข่ กุ้ยช่าย (ราคา 60 บาท) – ในเมื่อทางร้านแนะนำก็ต้องสั่งมาลอง เกี๊ยวจีนที่ร้านมีให้เลือกหลายไส้ และสามารถเลือกได้ว่าจะสั่งแบบต้มหรือทอด (เพิ่มอีก 10 บาท) เราเลือกไส้กุ้ง+ไข่+กุ้ยช่าย เสิร์ฟมาจานใหญ่ๆมี 10 ชิ้น เจาะไส้ดูกุ้งกับไข่จะสับเป็นชิ้นๆเล็กๆ ส่วนใหญ่จะกุ้ยช่ายเป็นหลัก เราสั่งเป็นแบบต้ม ได้สัมผัสของแป้งเกี๊ยวจีนนุ่มๆ เหนียวนิดๆ ลวกมากำลังได้ที่เคี้ยวอร่อย ไม่เละ วัดกันด้วยแป้งเกี๊ยวถือว่าไม่แพ้เจ้าดัง (ส่วนเรื่องไส้นั้นก็ลดหลั่นไปตามราคา ไม่ว่ากันค่ะ) น้ำจิ้มนั้นทางร้านให้เราผสมเองด้วยเครื่องปรุงที่ตั้งไว้ที่โต๊ะคือแม็กกี้ (ให้รสเค็ม) + จิ๊กโฉ่ว (รสเปรี้ยว) + น้ำพริกเผาใส่งา (ทั้งหอมและเผ็ดถึงใจ) ปรับสัดส่วนได้ตามรสนิยมลูกค้า จิ้มกับเกี๊ยวเข้ากันดีจริงซะด้วย ปลื้มเลย.. ● ราเมนหมูสับ (ราคา 55 บาท) – มาร้านราเมนก็ต้องสั่งบะหมี่มาลอง เส้นหมี่เป็นเส้นขาวๆแบบบะหมี่จีน ลวกมานิ่มไปนิด แต่น้ำซุปหอมและรสดีกลมกล่อม เป๊ะแบบไม่ต้องปรุง เข้ากับหมูสับและผักหลากสีสันที่ใส่มาดีมากๆ อันที่จริงทางร้านมีให้สั่ง toppings เพิ่มได้ด้วย แต่เราลองแบบปกติก่อน กินไปกินมาหมูหมดก่อนเส้นจริงๆ คิดว่าควรสั่ง toppings ด้วยจะอร่อยพอดีกว่าค่ะ ● บัวลอยไส้ถั่วแดง (ราคา 30 บาท) – เมนูนี้สั่งแล้วต้องรอนานหน่อย เดาว่าคงต้มกันเมื่อสั่งจริงๆ บัวลอยลูกใหญ่กว่าบัวลอยไทยนิดเดียว สอดไส้ถั่วแดงกวน ปั้นมาโย้เย้นิดๆแบบเห็นแล้วรู้เลยว่าทำกันเอง พอชิมแล้วคือเป๊ะเลย แป้งบัวลอยนุ่มหนุบกำลังดี ได้รสหวานนิดๆจากถั่วแดงกวนตามธรรมชาติ ทานกับน้ำต้มถั่วแดงร้อนๆที่ไม่ใส่น้ำตาลแล้วกำลังพอดี อร่อยไม่เลี่ยน ไม่หวานเกินไป ชอบมากมาย ● น้ำเก๊กฮวย (ราคา 15 บาท) – เห็นชงกันเองอยู่หลังร้านก็สั่งมาลองดู หอมชื่นใจใช้ได้เลยนะคะ โดยรวมแล้วแม้บรรยากาศร้านจะดูบ้านๆ แต่อาหารที่ลองก็รสชาติดี ราคาดี เป็นรสชาติแบบจีนแท้ๆที่ไม่ได้จะเจอได้ทั่วไป แถมร้านยังเปิดยาวๆตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม (แอบนึกชื่นชมในความขยันทำมาหากินของคนจีนจริงๆ) ผ่านมาย่านนี้ก็แวะมาลองกันได้ค่ะ #May2019

  • 12
  • 0
19/05/28