What are the business hours?

[Everyday] 10:00~22:00 Surakan Korean restaurant

[Lunch]〜500THB [Dinner]〜500THB

Surakan Korean restaurant

ร้านอาหารเกาหลีสุระกัน / พระราม3

Korean

～500 THB

Sv city condo, 1st floor, Rama 3 Road, Bang Phong Phang Subdistrict, Yan Nawa District, Bangkok

More Information

180

See all photos

Punnaporn Siriviriya 135 Followers

12
See all photos
Su Ra Kan จะปิดปรับปรุงร้าน ตั้งแต่ 16 ก.พ.-2 มี.ค. 67 เปิดอีกที 3 มีนาคมเลยนะ เมื่อวานไปทานกับเพื่อนๆ เห็นป้ายพอดีเลยมาอัพเดต 🇰🇷สุระกัน เป็นร้านอาหารเกาหลีที่ถูกปากเราและเพื่อนๆ ชวนกันมาหลายคนสั่งได้เยอะดี ระหว่างรออาหารเค้าจะเสริฟกิมจิแบบต่างๆ และน้ำชาข้าวบาเล่ย์ พวกนี้ขอเติมได้เรื่อยๆเลย อาหารที่ชอบสั่งประจำ แนะนำ 🐙 นักจี โบกอึม ปลาหมึกผัดซอส เสริฟพร้อมข้าวสวย 🐷 โกชุจัง ซัมเกียบซัล หมู 3 ชั้นสไลด์ผัดซอส ห่อทานกับผักสด และเครื่องเคียง 🍕กิมจิ จอน แพนเค้กเกาหลี 🍲บิบิมบับ ข้าวยำเกาหลี 🥣ซุปซุนดูบุ ซุปเต้าหู้อ่อน 🍗ดัก คัง จอง ไก่ทอดเกาหลี 🥙จับแชผัด วุ้นเส้นเกาหลี รสกำลังดีไม่จัดไป 📍 Su Ra Kan ชั้น G ตึก SV City พระราม 3 🕰 10.00-21.00 น. ทุกวัน #longkindooz #ลองกินดู๊ #อาหารเกาหลี #สุระกัน #surankan #บิบิมบับ #ข้าวยำเกาหลี #พระราม3 #ของกินพระราม3 #koreanfood #koreanfoodlover See more
Veerapat Ma 135 Followers

11
See all photos
ทานมาหลายร้านแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอร้านที่ถูกปากสักที รอบนี้โอกาสดีชวนเพื่อนๆ มานัดเจอและทานข้าวด้วยกัน ก็เลยกลับมาร้านนี้ ร้านนี้จะมีกำหนดการปิดปรับปรุงร้านในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และจะเปิดอีกทีในช่วงปลายเดือนมีนาคม หากเพื่อนๆ คนไหนเล็งร้านนี้ไว้แล้ว อย่าลืมรีบไปทานกันนะ ตำแหน่งร้านยังอยู่ที่เดิม ที่ SV City ชั้น G ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองร้าง โดยที่มีแสงของร้านนี้ส่องประกายอยู่ ภายในร้านยังมี 2 โซนคือนั่งพื้น กับเก้าอี้ หากพาผู้ใหญ่มา แนะนำให้นั่งโต๊ะจะดีที่สุด เมนูอาหารทุกอย่างเหมือนเดิม ราคาไม่ได้ปรับขึ้นแต่อย่างใด แต่ปกติจะอยู่หลักร้อยทุกเมนูอยู่แล้วสำหรับร้านนี้ พร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลายแล้วแต่ช่วงเวลา สำหรับวันนี้จะรีวิวคร่าวๆ เนื่องจากหลายเมนูรีวิวไปหลายรอบแล้ว แนะนำเหมือนเดิมกับ โดลโซล บิบิมบับ ข้าวคลุกเกาหลีในหม้อหินร้อนๆ ที่เราต้องใส่ซอสและคลุกเองถึงจะได้อารมณ์มากที่สุด ส่วนใครดูหนังเกาหลีและเห็นเมนูเส้นเหลืองๆ กับน้ำดำๆ ร้านนี้ก็มีให้เบิกเนตรเติมค่าประสบการณ์กับจาจังเมียน (ร้านนี้มีทั้งจาจังมยอน เส้นหยัก กับ จาจังเมียน เส้นตรงเหมือนสปาเกตตี้) รสชาติเข้มข้น ออกหวานนิดๆ ติดนิดเดียวตรงที่ไม่มีไช้เท้าดองสีเหลืองกับหัวหอมให้มาด้วย หรือเมนูทานง่ายๆอย่าง คิมบับ อันนี้ก็มีเช่นกัน หน้าตาง่ายๆ รสชาติเข้าถึงได้ง่ายยิ่งกว่า อร่อยแบบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติม สายต๊อกก็ห้ามพลาดกับเมนู ต๊อกชีสกับซอสเผ็ด อันนี้จะให้ Texture นุ่มๆ ข้างในมีชีสยืดๆ เพื่อนที่มาทานด้วยกันบอกว่าไม่เคยเจอ Texture ที่ถูกต้องแบบนี้มาก่อน อันนี้ลองได้ลอง แต่อย่าทานเยอะเพราะจะไม่ได้กินเมนูอื่นต่อ จานหลักวันนี้ ได้มีโอกาสลองหมูสามชั้นชุดใหญ่ของร้าน ในราคา 660 บาท ไม่ได้ต่างจากจานไซส์ปกติมาก แต่จะได้เครื่องผัก อย่างเช่น กะหล่ำต้ม และผักอีกจานโตๆ ซึ่งจริงๆ ก็สามารถ Request บางอย่างได้แหละ จะให้ทางร้านย่างมา หรือจะขอเตามาย่างเองก็ได้ แต่ระวังน้ำมันกระเด็นหน่อย หมูอร่อย จิ้มกับซัมจังก็พอ หรือจะห่อผักเพิ่มมิติอาหารให้มากขึ้น ปิดท้ายกับเมนูอย่าง ยำขาหมู ราคาจำไม่ได้แต่แพงใช่ย่อย ทางร้านจะยำมาให้เสร็จสรรพเลย ถ้าอยากได้แบบออริจินัลที่จัดจานสวยๆ ให้แจ้งร้านได้ จะเต็มไปด้วยผัก และเนื้อสัตว์ก็คือส่วนขาหมู ที่จะไม่ได้เอาไปต้มจนเปื่อยแบบบ้านเรา อันนี้จะออกไปทางเหมือนกินหูกับหัวหมู แต่นุ่มกว่า เข้าถึงง่ายกว่า ออกไปทางสลัดแบบเฟรชๆ ใส่มัสตาร์ดฉุนๆ ลงไปด้วย จานนี้จะดีกว่านี้ถ้าหากมีเป็นจานเล็กด้วย ความอร่อยโดยรวมยังเหมือนเดิมไม่มีผิดหวัง การบริการขึ้นอยู่กับจำนวนคนในร้าน หากเยอะก็จะช้าหน่อยๆ พวกเครื่องเคียงขอได้เรื่อยๆ รวมถึงชาข้าวที่แช่อยู่ในตู้เย็น ขอจนเกือบหมดตู้กันเลยทีเดียว ใครชอบเครื่องเคียงแล้วอยากสั่งกลับ แนะนำให้สั่งเป็นสักเมนูกลับไปทานบ้านก็จะได้เครื่องเคียงมาด้วย แต่ถ้าอยากได้กิมจิ ก็จะมีขายเช่นกัน ราคาดีด้วยแหละ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ See more
Veerapat Ma 135 Followers

20
See all photos
ร้านอาหารเกาหลีในตำนานของเมืองไทยที่ยังเปิดให้บริการอยู่ จากการมารีวิวหลายครั้งแล้ว ก็ยังได้รสชาติและความอร่อยแบบเดิมๆ ถูกปากถูกใจเช่นกัน ตำแหน่งร้านยังอยู่ที่เดิมที่ SV City อาคารที่เหมือนเมืองร้างขนาดย่อมเพราะสร้างมา 30 กว่าปีแล้ว แต่ขาดการดูแลไปสักหน่อย ตัวร้านมีการปรับปรุงใหม่ ทาสีใหม่ ทำให้ดูสะอาดสอ้านมากขึ้น แต่ก็ยังคงคอนเซป โต๊ะและที่นั่งที่เป็นของเดิม มีทั้งแบบนั่งพื้น และนั่งโต๊ะ แต่ด้วยประสบการณ์ นั่งโต๊ะดีกว่านั่งพื้นเป็นไหนๆ เมนูอาหารได้รับการปรับปรุงเป็นเล่มใหม่ อ่านง่ายกว่าเดิม มีการตัดเมนูบางอย่างออก เข้าใจว่าลูกค้าไม่ค่อยจะสั่งกัน แต่เมนูหลักๆ ทั้งหมดยังมีอยู่เหมือนเดิม สำหรับเมนูที่ทานวันนี้และแนะนำให้สั่ง ก็จะมี - ซัมเกียบซัล ราคา 280 บาท สามชั้นย่าง ที่สามารถขอให้ทางร้านทำมาให้เสร็จเลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องย่างเองให้เหม็นหัว เสิร์ฟคู่กับผักสด เสียดายร้านนี้ไม่ให้ใบงา สามชั้นนุ่มดี ทานกับกิมจิก็ดี หรือเปล่าๆ แล้วจิ้มน้ำมันงาใส่เกลือก็อร่อยแล้ว - โขงนามุล แฮจังคุก ราคา 250 บาท ซุปแก้แฮงค์ของคนเกาหลี ที่เบสทำมาจาก ปลาตาเดียวตากแห้ง แล้วหั่นมาเป็นชิ้นๆ ใส่ลงไปในน้ำซุป มีความกลมกล่อมแบบใสๆ ลีนๆ ถ้าชอบเผ็ดก็เติมพริกเกาหลีลงไปได้ มีใส่ผักต่างๆ มาด้วย ลองใส่ข้าวลงไป ก็อร่อยดีเหมือนข้าวต้มปลาเลย - โดลโซล บีบีมบับ ราคา 250 บาท เมนูซิกเนเจอร์มากี่ครั้งก็ต้องสั่ง ไปทานร้านอื่นมันไม่อร่อยเท่าร้านนี้ เหตุผลคือข้าวก้นหม้อ ที่ปล่อยให้กรอบๆ แต่ไม่ถึงขั้นไหม้ แล้วค่อยคลุกอีกที กรอบๆ ติดปลายหวาน อันนี้คือที่สุดแล้วจริงๆ - จัมปง ราคา 250 บาท เห็นเมนูนี้มานานแต่ก็ไม่ได้สั่งสักที เลยเป็นครั้งแรกที่ลองเมนูนี้ ตัวเส้นเป็นเส้นสด มีความหนึบหนับ ส่วนเครื่องต่างๆ จะผัดกับเนยก่อน แล้วค่อยเติมน้ำซุปและปรุงให้ออกเผ็ดๆ รสชาติดีจริง มีความหอมเนยในทุกส่วน ใครไม่ชอบเลี่ยนอาจไม่ถูกใจ ที่ชอบอีกอย่างคือไม่คาวเลย โดยเฉพาะตัวหอยที่ใส่ลงไป และมั่นใจด้วยว่าหอยซื้อมาจาก Makro แน่นอน (นำเข้ามาอีกที) - จาจังมยอน ราคา 200 บาท จานนี้ถ้าสั่งกลับบ้าน ทางร้านจะให้เครื่องเคียงมาอีกชุดใหญ่ๆ ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมให้ถึง 2 กล่อง รสชาติประทับใจ ซอสถั่วดำทำออกมาได้นวลเนียนและไม่เหม็นถั่ว เส้นก็เป็นเส้นสดเหมือนจานก่อนหน้า หนึบหนับ พลาดไปได้ยังไงตั้งนาน ในส่วนของเครื่องเคียง ก็จะมีเมนูที่คุ้นหน้าคุ้นตา อย่างกิมจิ เสิร์ฟ 3 แบบ ผักกาดขาว มะละกอ และแตงกวา ปลาทอดดองหวาน ผักโขม และถั่วงอกผัดน้ำมันงาที่ทำจากถั่วเหลือง ขอเพิ่มได้ทั้งหมดไม่ต้องว่ากั๊ก แถมวันนี้ยังได้ ไข่ตุ๋น ปริมาณไม่เยอะ เสิร์ฟมาให้ทานอีกเช่นกัน น้ำเปล่ารีฟิวเพิ่มได้ไม่อั้น โดยจะเป็นน้ำเปล่าที่ใส่ข้าวบาร์เลย์ลงไปด้วย ทานแล้วจะมีกลิ่นหอมๆ ติดปลายลิ้น ยังไงก็ต้องกลับมาทานร้านนี้อยู่ดี หลังจากไปกินหลายร้านทั้งจากที่เป็นคนเกาหลีมาเปิดเอง หรือจะเป็นคนไทยที่ไปเรียนวิชามาก็ตาม อาจจะด้วยความถูกใจในรสชาตินี้ไปแล้ว เลยทำให้ไปทานร้านอื่นอาจจะไม่ได้อย่างงี้ รวมทั้งหลายๆ เมนูที่ร้านอื่นไม่มี ร้านนี้มีหมดครบทุกอย่าง แทบจะไม่ต้องไปกินร้านอื่นก็ยังได้ เสียแค่การเดินทางอาจจะลำบากนิดหน่อย เหมาะกับรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า การบริการดีและรวดเร็ว เมนูไม่เสิร์ฟมั่ว ร้านนี้มั่นใจได้ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ #MayMeYou See more
Veerapat Ma 135 Followers

20
See all photos
ในย่านพระราม 3 จะมีตึกใหญ่ๆ ชื่อว่า SV City ซึ่งเป็นเหมือน Community ในยุคเก่าที่มีทั้ง อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย โรงแรม และร้านอาหารในที่เดียว แต่ปัจจุบันที่แห่งนี้กลายเป็นเหมือนเมืองร้างขนาดย่อมๆ ที่ไร้ชีวิตชีวา แต่ใครจะไปรู้ ว่ายังมีร้านอาหารเกาหลีลับๆ อยู่ร้านนึง ที่รสชาติดีเหมือนต้นตำรับ ไม่ว่าใครจะไปแนะนำให้ไปลองทานร้านอาหารเกาหลีใหม่ๆ ที่ไหน สุดท้ายก็ยังยกให้ร้านนี้เป็นร้านที่ดีที่สุดอยู่เหมือเดิม และร้านนั้นคือ “SU RA KAN” การเดินทางมาร้านนี้ไม่ยากอย่างที่คิด หากเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะสามารถขึ้น BRT มาลงที่สถานีวัดด่าน และเดินลงจากสะพานก็จะถึงทางเข้าตึกเลย หรือถ้าขับรถยนต์ส่วนตัว สามารถขับมาตามถนนพระราม 3 ฝั่งขาออก และตึกจะอยู่ด้านซ้ายมือ เลี้ยวเข้าตึกและรับบัตร ก่อนจะเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาไปฝั่งที่มีให้แตะบัตร และตรงเข้าไปจอดรถตรงที่มียามยืนเฝ้าอยู่ และจากนั้นก็เดินเข้าประตูที่อยู่ข้างมินิมาร์ท ตรงเข้าไปจนเจอกับบันไดเลื่อน ขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเดินตรงมานิดหน่อย จะเจอร้านสีส้มๆ เลย หรือถ้ากลัวหาไม่เจอ ลองดูแถวๆ นั้นว่ามีร้านไหนคนเยอะ ร้านนั้นแหละคือ SU RA KAN ด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นคนเกาหลี (ปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว) การตกแต่งย่อมมีกลิ่นอายความเป็นเกาหลี ภายในร้านจะตกแต่งเป็นแนวเรียบๆ มีรูปอาหารเกาหลีแปะเป็นจุดๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ร้านอาหารเกาหลีแบบยุค 80 แต่ได้ในเรื่องความสะอาดสะอ้าน ไม่ดูเก่าจนเกินไป และที่นั่งก็จะมีอยู่ทั้งแบบนั่งพื้น และนั่งเก้าอี้ อันนี้แล้วแต่ชอบว่าอยากได้ฟีลไหน แต่แนะนำว่านั่งเก้าอี้ดีกว่า เมนูอาหารเองก็จะเป็นอาหารเกาหลีขนานแท้เลย ชื่อภาษาไทยเองก็จะทับศัพท์เลย แต่ถ้าอยากรู้ว่ามันคือเมนูอะไร จะมีกำกับบอกเป็นภาษาอังกฤษอยู่ แต่ถ้ายังนึกไม่ออกว่ารสชาติเป็นอย่างไร สามารถสอบถามกับพนักงานได้ หลังจากสั่งอาหารเสร็จ ทางร้านจะเริ่มเสิร์ฟเครื่องดื่มฟรี เป็นชาข้าวคั่วแช่เย็นๆ สามารถขอเพิ่มได้ตลอดหากหมด รสชาติมีความหอมๆ ในปาก ใช้ทานตัดเลี่ยนได้ดี และจากนั้นก็จะทยอยเสิร์ฟเครื่องเคียงที่ขอเพิ่มได้เช่นกัน มีอยู่ด้วยกันประมาณ 6 อย่าง เป็นกิมจิผักกาดขาว กิมจิไช้เท้าซอย กิมจิแตงกวา มันฝรั่งต้มซอส ปวยเล้งผัดน้ำมันงา และออมุกคลุกกิมจิ หากถูกใจในรสชาติอย่างกิมจิ ก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วย เมนูอาหารจานหลักที่ทานวันนี้ก็จะมีอยู่ด้วยกัน 5 เมนู - SunDae-Guk ราคา 250 บาท: เมนูซุปไส้กรอกเลือดสีขาวขุ่น ที่เราจะเห็นได้จากหนังเกาหลีหลายๆ เครื่อง ประกอบไปด้วยซุนแด หรือไส้กรอกเลือดที่ผสมเนื้อหมู วุ้นเส้นเกาหลี เลือดหมู และดับกลิ่นด้วยขิงและสมุนไพรอื่นๆแล้วแต่สูตร ผสมรวมกันและยัดเข้าไปในไส้หมู นำไปต้มจนสุกและหั่นเป็นชิ้นๆ ก่อนจะนำมาใส่ในซุปกระดูกหมูเคี่ยวจนสีขาวเหมือนน้ำนม มีใส่เครื่องในอย่างม้ามและไส้หมูลงไปด้วย รสชาติจะออกจืดและหวานแบบธรรมชาติ เสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งฝอยดองน้ำเกลือ และพริกเกาหลีเพื่อเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นขึ้น แต่ถ้ายังไม่พอใจ ก็มีเกลือและพริกไทยให้เติมจนกว่าจะพอใจเช่นกัน เมนูนี้สามารถใส่ข้าวลงไปเพื่อทำให้กลายเป็นข้าวต้มก็ได้เช่นกัน ไส้กรอกเลือดจะมีความแน่นๆ รสชาติจืดๆมีกลิ่นขิงแทรก เปรียบเทียบได้กับไส้กรอกอีสาน ต่างกันแค่ไม่เปรี้ยวเท่านั้นเอง เครื่องในทำออกมาได้ดี ดับกลิ่นสนิทและต้มจนเปื่อย เป็นซุปที่ช่วยลดความเลี่ยนจากการทานเมนูอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี - Cheese-TteokBokKi ราคา 250 บาท: เมนูอาหารเกาหลีสุดเบสิค ที่มีแป้งต็อกไส้ชีสเป็นส่วนประกอบหลัก เติมด้วยออบุกหรือปลาเส้นที่หั่นเป็นเส้นยาวๆ กิมจิผักกาดขาว และราดซอสสูตรลับประจำร้าน รสชาติจะออกไปทางเค็มๆและหวานๆ แป้งต็อกอร่อยชีสเยิ้มใช้ได้ ส่วนออบุกให้รสชาติเค็มๆ เพิ่มความอร่อยให้กับแป้งต็อกได้เป็นอย่างดี - Bossam ราคา 350 บาท: เมนูหมูสามชั้นต้ม เสิร์ฟคู่กับผักกาดขาวสด และกิมจิไช้เท้าดองที่ท๊อปด้วยหอยนางรมสดๆ เป็นเมนูแปลกๆ ที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันสักเท่าไร วิธีทานให้นำหมูมาวางบนผัก และแปะด้วยกิมจิที่มีหอยนางรมด้วยนั่นแหละ จากนั้นให้นำเข้าปาก รสชาติจะมีความทะเลๆ จากตัวหอยนางรมที่สดใหม่ กิมจิเพิ่มความเปรี้ยวและชูรสชาติของหมูสามชั้นต้มให้เด่นขึ้น ตัวหมูเองก็ต้มจนนิ่มทานได้ทั้งชิ้นโดยไม่ต้องออกแรงเคี้ยว ส่วนผักกาดขาวเพิ่มความกรุบกรอบ ทำให้จานนี้มี Texture ที่ครบเครื่องในตัว โดยไม่ต้องเติมอย่างอื่นแต่อย่างใด - Kimchi-jiigae ราคา 180 บาท: ซุปกิมจิฉบับต้นตำรับเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวย ภายในก็จะมีเต้าหู้ และกิมจิผักกาดขาวที่เป็นส่วนประกอบหลัก มีเนื้อสัตว์เป็นหมูสามชั้นที่ต้มจนนิ่ม ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวแต่อย่างใด เต้าหู้ขาวออกหอมๆ ทานได้เพลินๆ ส่วนรสชาติซุปจะออกเข้มข้น ไปทางเปรี้ยวผสมกับเค็ม ไม่ใช่เปรี้ยวแบบแกงส้มเหมือนร้านอื่นๆ - Dolsot-bibimbap ราคา 220 บาท: ข้าวยำเกาหลีในหม้อหินร้อนๆ เป็นเมนูที่ Recommend ที่สุดของร้านนี้ ประกอบไปด้วยข้าวเกาหลี ไช้เท้า แครอท ถั่วงอก สาหร่าย ผักปวยเล้ง และหมูสับ โปะด้วยไข่ดาว พร้อมกับซอสโคชูจังปรุงรสของทางร้านที่รสชาติจะออกไปทางหวานๆ ถ้าหากชอบทานกรอบๆ ควรรอให้เสียงเริ่มเบาลง แล้วค่อยคลุกให้เข้ากัน และไม่ต้องกลัวว่าข้าวจะไหม้ไปก่อน ความอร่อยของจานนี้อยู่ที่ซอสที่ให้รสชาติออกหวานนำและเค็มตาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะร้านนี้ที่ไม่มีร้านใดเหมือน และตัวข้าวที่ร้อนอยู่ตลอดเวลา ทำให้สามารถทานได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกจุกแต่อย่างใด แถมยังได้ความกรุบกรอบทานได้เพลินๆ เช่นกัน รสชาติอาหารโดยรวมถือได้ว่าเป็นอาหารเกาหลีขนานแท้ ทั้งซุปซุนแดที่รสชาติจืดเหมือนต้นตำรับแต่อร่อยแบบธรรมชาติ ต็อกชีสที่ทานได้เพลินๆ เหมือนเป็นออเดิร์ฟแบบเกาหลี โบซัม ที่เปลี่ยนจากหมูสามชั้นย่างมาเป็นหมูสามชั้นต้มที่ทานได้ง่ายและไม่หนักท้องแถมยังนำหอยนางรมมาชูความอร่อยของจานนี้ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น หรือจะเป็นซุปกิมจิสูตรเข้มข้น รสชาติเข้มข้นเหมือนต้นฉบับ และข้าวยำเกาหลีร้อนๆ ที่เป็นที่สุดแห่งความอร่อย นอกจากนี้เครื่องเคียงเองก็ทำออกมาได้ดีทุกเมนู หากใครชอบเมนูไหนก็สามารถซื้อกลับเพิ่มเติมได้เช่นกัน ในส่วนของการบริการ ด้วยความที่เป็นร้านอาหารเกาหลี การขอเครื่องเคียงหรือเครื่องดื่มเพิ่มเติมเป็นเรื่องที่ปกติมากๆพนักงานจะเสิร์ฟด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และการให้บริการอื่นๆ ก็รวดเร็วเช่นเดียวกัน สำหรับใครก็ตามที่ดูซีรีย์เกาหลี อยากจะทานหมูสามชั้นย่าง กิมจิ จับแช และเมนูเกาหลีแปลกๆ อื่นๆ ที่ร้านอาหารเกาหลีในไทยอื่นๆ ไม่ค่อยมีกัน ลองโทรจอง หรือ walk-in มาทานร้านนี้สักครั้ง แล้วจะรู้ว่าอาหารเกาหลีมีดีกว่าที่คุณคิด 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี See more
Mhewy Z Quippy 283 Followers

Su ra kan 🇰🇷 ได้ยินชื่อเสียงร้านนี้มานาน เพิ่งจได้มาลองกิน เป็นร้านอาหารเกาหลีในตึก SV city ภายนอกตึกดูไม่น่าจะมีร้านอาหารเกาหลีอยู่ในนั้นเลย บรรยากาศในร้านเหมือนไปกินร้านบ้านๆในเกาหลีเลย มีแบบนั่งพื้นกิน ได้ฟีลไปอีก เมนูอาหารเกาหลี มีให้เลือกหลากหลายเลย แต่ที่ต้องสั่งเลยคือ “หมูย่างเกาหลี” ทางร้านจะย่างและหั่นมาให้เลย มีเครื่องเคียงให้เลือกเยอะมาก นอกจากนี้ที่สั่งไปยังมี “ข้าวยำบิบิมบับ” “ต็อกปกกี” “ซุปกิมจิ” “หมึกผักพริกเกาหลี” “ไข่ตุ๋น” “พิซซ่าเกาหลี” รสชาติอาหาร ส่วนตัวคิดว่ายังไม่ได้ว้าวมาก รสกลางๆ ไปกันหลายคน สนุกดี #Rettynewyear2022 See more

View more reviews

Restaurant Info
RESTAURANT NAME	Surakan Korean restaurant ร้านอาหารเกาหลีสุระกัน
TEL	+66879394133
ADDRESS	Sv city condo, 1st floor, Rama 3 Road, Bang Phong Phang Subdistrict, Yan Nawa District, Bangkok
ACCESS	-
AREA	Rama3
CATEGORY	Korean
OPENING HOUR	[Everyday] 10:00~22:00
CLOSE DAY	-
BUDGET	～500 THB ～500 THB