ได้มากินร้านนี้สักที อยากจะมากินนานแล้ว วันนี้ตั้งใจมากินเลย ไก่ที่นี่เป็นแบบไหหลำ เนื้อไก่ดีมากครับ หนังเหลืองสวย เนื้อนุ่ม ไขมันใต้หนังแทบไม่มี ส่วนตับออกเป็นสีเหลืองด้วย ตอนแรกยังนึกว่าเขาใช้ขมิ้นต้ม แต่ถามกับทางร้านแล้ว เขาบอกเป็นแบบธรรมชาติเลย หนังและตับเป็นสีเหลืองแบบนี้ น่าจะเป็นไก่ที่เลี้ยงตามธรรมชาติไม่ใช่ไก่ที่เลี้ยงในโรงเรือน แต่ก่อนเขาจะเลี้ยงไก่เองด้วยซ้ำ เดี๋ยวนี้เห็นว่าสั่งไก่มา แต่อร่อยมากๆครับ ที่ชอบอีกอย่างคือน้ำจิ้ม เป็นแบบโบราณเลย จะมีรสชาติเค็มนำ ผสมเต้าเจี้ยวไม่เยอะมาก แต่ไม่มีขิงและพริกขี้หนูให้เติม จานนี้เป็นเนื้อน่องราคา 100 บาท
เสาร์อาทิตย์หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของหลายๆ ครอบครัว จะต้องหาที่เที่ยว ไม่ไปค้างบ้าง ก็เช้าเย็นกลับ ใครที่กำลังหาที่เที่ยวช่วงนี้ ไม่ไกลจากกรุงเทพ ก็ต้องมาที่ร้านนี้เลยกับ Du Bua อาณาจักรร้านอาหารและคาเฟ่ที่ใครหลายๆ คนจะต้องมาเยือนสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายชนิด ขนมก็มีหลายร้าน และมีอีกหลายจุด แล้วแต่เลยว่าจะพักตอนไหน กิจกรรมก็หลากหลายดี ทั้งถีบเรือเป็ด ให้อาหารสัตว์ ซึ่งอย่างหลังนี้เป็นไฮไลต์ที่ที่อื่นก็เทียบไม่ได้เลยจริงๆ เมื่อมาถึงทางเข้าร้าน ก็จะเจอกับร้านล้างรถ ซึ่งไม่ต้องแปลกใจเพราะเค้าทำให้ครบวงจร และมีร้านกาแฟสำหรับนั่งคอย 1 ร้าน ซึ่งเป็นแบบ Specialty อีกด้วย ซึ่งถ้าใครไม่ขับเข้าไปด้านในต่อ ก็จะไม่รู้เลยว่ามีที่จอดรถขนาดใหญ่ รองรับได้เป็นร้อยคัน อยู่อีก มีที่จอดในร่มด้วยแต่อาจจะต้องแย่งกันสักหน่อย ใครขับรถไฟฟ้า ยังไม่มีที่ชาร์จให้นะ ส่วนใครจอดไกล ทางร้านก็มีบริการรถกอฟท์ด้วยนะ ทางเข้าร้านอาจจะแปลกใจหน่อยเพราะว่าเอาร้านของที่ระลึกมาอยู่ตรงหน้าเลย ซึ่งตรงนี้จะไม่มีที่นั่ง เน้นขายของและซื้อของกลับบ้านอย่างเดียว ส่วนตัวแนะนำให้ออกมาซื้อตอนหลัง เพราะของขายหลายอย่างอร่อยเลยแหละ เมื่อเข้าจากประตูหลัก ก็จะมีทางไปโซนต่างๆ ซึ่งจะมีร้านอาหารอยู่หลายร้านมากๆ บอกได้เลยว่าอันนี้แค่ Phase แรกของเค้า มีประมาณ 4 ร้านใหญ่ที่เปิดให้บริการ ถ้าเน้นคาเฟ่ก็ไปตรงคาเฟ่ได้เลย ส่วนใครยังไม่ได้ทานอะไรมาก็มีอาหารคาวแบบครอบครัว ให้บริการอยู่เช่นกัน ส่วนตัวมาที่คาเฟ่เลยเพราะอยากนั่งชิวๆ ที่โซนนี้จะมีห้องแอร์ให้บริการ เค้ก และเครื่องดื่ม รวมทั้งมาการอง แนะนำให้สั่งเป็นเครื่องดื่ม และสั่งมาการองมาทาน ถึงแม้หน้าตาอาจจะไม่ได้ 100% แต่รสชาติใช้ได้เลย หนักหวานแบบตัดขา ส่วนเค้ก ไม่แนะนำ แม้จะชิ้นใหญ่ เครื่องแน่น แต่แป้งไม่ได้จริงๆ ในโซนสัตว์ จะมีหลากหลายจุดแล้วแต่เราอยากจะไป ตั้งแต่กระต่าย ไก่ แพะ อันนี้เบสิคมีอยู่แล้ว พัฒนาขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นกวางดาว ม้าแคระ แกะ ควายก็ยังมี สัตว์ Exotic ก็จะอยู่ในโซนเฉพาะและไม่สามารถให้อาหารได้ ส่วนใครอยากให้อาหาร ก็มีตู้อัตโนมัติให้บริการ แค่หยอดเหรียญเท่านั้น แลกได้ตามจุดต่างๆ อีกอย่างที่รู้สึกว่าร้านนี้มีเยอะมากๆ คือตู้กาชาปอง โดยจะมีคาเฟ่อยู่ที่นึงที่มีแบบละลานตาเกือบครึ่งร้าน เป็นแบบตุ๊กตาไม่มีลิขสิทธิ์ใดๆ เน้นเอาฮาเป็นหลัก หรือจะเป็นตู้คีบตุ๊กตาก็มีเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีร้านนวดแผนไทยให้บริการด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องจองล่วงหน้าเพราะคิวแอบยาวเช่นกัน ความสนุกโดยรวม เหมาะกับครอบครัวพาเด็กมาเที่ยวเล่นโดยไม่ต้องไปไกล เช้าเย็นกลับได้ หรือจะไปค้างที่ไหนต่อก็ได้เช่นกัน อาหาร โซนของคาวยังไม่ได้ลอง แต่ถ้าเค้กขอให้หนีให้ไกล ที่นี่มีร้าน Yoguruto ด้วยนะเผื่อใครไม่อยากของหวานแต่อยากได้อะไรมาดูด การบริการก็ทั่วๆไป สไตล์ Community ไม่ได้เน้นมาก และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือปั่นเป็ด 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
มาร้านนี้ ระหว่างนั่งรออาหาร ฟังเสียงโคลกเครื่องแกง สับหมูสับกุ้บในครัว เพลินมาก ฟังแล้วยิ่งบิ้วด์ว่าอาหารต้องอร่อยแน่ๆ ไม่ผิดหวัง เพราะทุกจานทำออกมาได้รสเข้มข้นดีมาก ปริมาณต่อจานจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็ดีเพราะจะได้สั่งอาหารได้หลายจาน ส่วนใหญ่จะเป็นกุ้งสับ จะสั่งเป็นผัดพริกแกงกับสมุนไพรก็อร่อยดี ใครชอบกะปิแนะนำสั่งดอกแคผัดกะปิเอาน้ำซอสมาคลุกข้าว เครื่องแกงเค้าอร่อย เลยสั่งแกงเขียวหวานผัดแห้งไปหนึ่งจาน ทุกจานล้วนต้องกินกับข้าวสวย ฉะนั้นเตรียมอิ่มจุกๆ กันเลย หมูคั่วแจ่วเราว่าน้ำราดหวานเกินไป ต้มยำเห็ดคือเห็ดลอยเต็มชามเยอะมาก หมูทอดน้ำปลากลับเป็นเมนูที่ดีที่สุดในมื้อนี้ โดยรวมคือแวะได้แหละ
ร้านกาแฟในตลาดท่านา นครชัยศรี ซึ่งจุดเด่นหนึ่งในร้านคือการสะสมของเก่า (ทางร้านยินดีขายด้วย) สั่งชาเขียวมะนาว (80 บาท) รสชาติเครื่องดื่มเข้มข้นกว่าชามะนาวปกติ และอร่อยกว่าด้วย ทั้งความเข้มข้น ความเปรี้ยว