มาชะอำ ปฏิบัติการที่ยอมทำทุกครั้งคือขับรถไปอีก 40 โล ที่หมายคือเขาเต่า ที่ตั้งของร้านอาหารเก่าแก่ “ร้านรสทิพย์” บรรยากาศเดิมๆสไตล์ร้านอาหารริมทะเลยุคหัวหินเป็นถิ่นสัญญา มีเพิงโต๊ะไม้วงกลมแบบนั่งล้อมสวาปามอาหารทะเลสุดอร่อยพร้อมวิวพาโนริมทะเลแบบเงียบสงบ ถึงครั้งที่ในหลวง ร.9 เคยเสร็จมาเสวยเป็นการส่วนพระองค์ สี่เมนูที่พลาดไม่ได้เลยตามรูปคือ ปลาสำลีทอดน้ำ - สำลีตัวโตสดๆเพิ่งขึ้นมาจากเรือประมง เนื้อแน่นปึ๊ก เมนูนี้เป็นเอกลักษณ์คือนำปลาทั้งตัวลงทอดในน้ำสะอาดที่ผสมน้ำมันในสัดส่วน 80/20 ความสดของปลาคือเรซิพีหลักที่ขับความหวานออกมาจากเนื้อปลาโดยไม่ต้องปรุงอะไรมากเลย สนนราคาค่าตัว 500 บาท คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ตามมาด้วยแกงป่าปลาเห็ดโคน แกงป่าใครทำก็ได้ไม่ยาก แต่อีกแหละ ความสดของส่วนผสมเป็นพระเอกเหมือนเดิม เนื้อปลาเห็ดโคนสดสดชิ้นพอดีคำที่แน่นดึ๋งไม่เละ เนื้อชุ่มน้ำแกงเมื่อช้อนขึ้นจากหม้อไฟก่อนเข้าปาก มะเขือสดๆที่คาดว่าจะเอาลงหม้อก่อนที่จะเสริฟ์ กรอบกรุปไม่เละ มันอร่อยจนต้องถามน้องคนเสิร์ฟว่าจะสั่งเฉพาะปลาเห็ดโคนมาเติมในหม้อไฟได้ไหม (ในที่สุด สั่งเบิ้ลอีกหม้อ และเกลี้ยง!) พระเอกที่มาท้ายสุด แต่ตอนสั่งสั่งไปทีเดียวเลยสองจาน คือ เนื้อสันผักชี ซิกซ์เนเจอร์ของร้าน วิธีการทำคือนำเนื้อไปย่างบนเตาถ่านไฟอ่อนถึงกลางให้มันสุกจากนอกเข้าในโดยให้ความร้อนค่อยๆรุม ระหว่างนั่นนำเครื่องปรุงมารวนทำน้ำยำ ที่ชอบมากคือกระเทียมโทนสดๆเม็ดเล็กๆที่ตัดรสกับผักชีโรยหน้าพร้อมพริกขี้หนู เมื่อน้ำยำเข้าที่ก็ราดลงบนเนื้อที่ย่างจนได้ที่ เป็นเมนูที่ปิดท้ายมื้อสองสำรับหมดเกลี้ยงเช่นกัน นี่คือแค่ทีเด็ดตัวอย่างสามเมนูสุดฟินน์กระดิ่งแมว นอกเหนือจากนี้ยังมีกองทัพสำรับอาหารที่ถูกทยอยลำเลียงลงท้อง เช่น ปลาหมึกชุปแป้ง ยำปลาหมึก กุ้งแช่น้ำปลา ไข่ตุ๋น หอยนางรมสด กะหล่ำผัดน้ำปลา อิ่มพุงสมกับการอดข้าวเช้าทนขับรถมากินมื้อกลางวันถึงเขาเต่า —-😭 หอยตลับผัดฉ่า นางเอกของร้านหมด แงงงง สั่งกันขนาดนี้สนนราคาแค่ 2,200 บาท คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม จ่ายสองพันได้วิวพันล้าน #รสทิพย์เขาเต่า #แบกตามดอยด์