ตัวร้านอยู่ตรงข้ามกับสน.ภูธรบางแก้ว ที่จอดรถต้องจอดตามริมถนน จะมีพนักงานคอยดูแลโบกรถให้ ที่นั่งมีทั้ง indoor & outdoor แต่อากาศร้อนแบบนี้ ให้นั่งทานซีฟู๊ดแบบเหงื่อตก คงไม่ไหว ขนาดมาช่วงบ่าย 3 ของวันธรรมดา ก็ยังมีลูกค้านั่งทานกัน 3 โต๊ะ ถือว่าฮิตพอควร เมนูที่หมายมั่นว่าต้องสั่งคือ “ปลากระพงทอดราดพริกขี้หนูสด” เอารูปในวงในส่งให้พนักงานดูอีกรอบเพื่อกันความผิดพลาด แรกสุดขอให้พนักงานเลือกปลาขนาดเล็กสุดให้เพราะมาทานกันแค่ 2 คน และกะจะสั่งเมนูอื่นๆ มาอีก 2-3 อย่าง ปรากฏพนักงานแจ้งว่า ปลากระพงของร้านมีแค่ขนาดเดียว เราก็โอเคเพราะคิดว่าไซส์คงขนาดมาตรฐานทั่วไป พอปลาลงเสริฟ ถึงกับอึ้งไปซักครู่ คือ มาตัวใหญ่มาก ความยาวน่าจะเกิน 1 ฟุต ปลาทอดมาได้น่ากินสุดๆ น้ำราดปรุงมาได้ครบรส เผ็ด เค็ม หวาน กลมกล่อม ทานง่าย แถมราคาถือว่าไม่แพงเลยสำหรับปลาไซส์นี้ (480 บาท) แต่เมนูนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสั่งมาทานแค่ 2 คนเพราะปริมาณเยอะมากเกินไปจริงๆ เราเองแทบจะนั่งทานปลาอย่างเดียว ทานเสร็จนี่ก็แทบจะว่ายน้ำกลับบ้านได้เลย ส่วนเมนูอื่นๆ ที่สั่งมา ปูไข่นึ่ง 2 ตัว (ตัวผู้ 1, ตัวเมีย 1) ตัวใหญ่พอสมควรนะคะ ราคาก็ดีอยู่ (585 บาท) เนื้อปูดูแน่นใช้ได้ ไข่ปูก็มาแน่นเต็มกระดอง จานนี้เราแทบไม่ได้แตะ แต่คนที่ทานก็ดูถูกใจอยู่ ส่วนน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรของที่ร้านยังไม่แซบมากนะคะ สามารถปรุงรสให้ออกเผ็ดเปรี้ยวได้มากกว่านี้ น้ำพริกไข่ปู (180 บาท) เสริฟมาพร้อมกับผักสดๆ ชามโต น้ำพริกใส่ไข่ปูวันนี้ดูใสไปหน่อย ส่วนไข่ปูแม้จะไม่ได้มาเป็นก้อนใหญ่แต่ก็ให้มาเยอะอยู่ ส่วนผักสดก็ล้างมาสะอาดดี แม้ว่ารสชาติโดยรวมจะออกมาเปรี้ยวนำไปนิดนึง แต่ก็ทานได้เพลินๆ ดีนะคะ ที่สำคัญได้ทานผักสดๆ กันจุใจไปเลย นอกจากเมนูกับข้าว เราก็ยังสั่งข้าวผัดเนื้อปูไข่ปูมาอีก 1 จาน (180 บาท) ซึ่งเมนูปกติที่ร้านจะไม่ได้ใส่ไข่ปูนะคะ จานนี้เราขอให้ที่ร้านทำให้เป็นพิเศษ ข้าวผัดมาได้ร่วนและแห้ง ยิ่งมีไข่ปูเพิ่มในข้าวผัดยิ่งอร่อยขึ้น ทานอาหารคาวเสร็จ ไม่เหลือพื้นที่ในท้องสำหรับของหวานที่เล็งไว้ตั้งแต่แรก “ไอศครีมสับปะรด” แค่นี้ก็แทบจะกลิ้งกันออกมาจากร้าน อิ่มมากๆ แถมราคาไม่แพงดีด้วยค่ะ