หลังจากมีกระแสเกมหม้อไฟมาแรงช่วงนึง ทำให้ร้านหม้อไฟจากจีนต่างๆ เริ่มได้รับความสนใจจากนักชิมนักกินทั้งหลาย โดยเฉพาะช่วงลมหนาวพัดมาแบบนี้ หม้อไฟร้อนๆ สายพานยาวๆ ที่ลำเลียงอาหารมากหน้าหลายตา อยากทานอะไรก็หยิบ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน ในย่านพระราม 9 จะมีร้านหม้อไฟแบบนี้เยอะมาก ทั้งแบบสายพาน บุฟเฟ่ หรือเป็นแนวสุกี้มาเป็นถาดๆ มีให้เลือกหลายร้าน อย่างร้านสุกี้จินดา สายพานหม้อไฟที่คิวยาวที่สุดตั้งแต่ร้านเปิดยันร้านปิด ซึ่งถ้าใครรอร้านนี้ไหว ก็รอไปเพราะรสชาติดีจริงๆ แต่ถ้าไม่อยากจะรอ แบบเดินเข้าร้านได้เลยหรือคิวไม่ยาว มีร้านที่อยากให้มาลองคือร้านนี้เลย ตำแหน่งร้านจะอยู่บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เดินทางด้วย MRT ลงที่สถานีห้วยขวาง แล้วเดินมาที่ร้านไม่ไกล หรือจะนั่งมอเตอร์ไซค์ฝ่าความหนาวมาก็ได้เหมือนกัน ส่วนใครขับรถมา ที่ร้านก็มีที่จอดเหมือนกันแต่โทรเช็คกับทางร้านก่อน เพราะไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่จอดหลังร้านมันเข้าทางไหน ตัวร้านเป็นตึกแถว 1 คูหาที่เข้าไปปุ๊บจะมีสายพานทันที เข้าใจว่ามีอยู่ด้วยกัน 2 ชั้น โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน หน้าร้านและหลังร้านแยกสายพานกัน แต่เมนูเหมือนกันหมด ส่วนแรกที่พูดถึงเลยคือซุป ซึ่งจะมีความแตกต่างจากสุกี้จินดาตรงที่มีให้เลือกแบบ 1 หม้อ 2 ซุป ได้ด้วยในราคาเพียง 75 บาท เลือกได้ทั้งหมดไม่ได้จำกัด ส่วนซุปนั้นจะแบ่งได้ 2 ประเภท ประเภทไม่ใส่หม่าล่า และใส่หม่าล่า ส่วนตัวเองไม่ได้ชอบหม่าล่าขนาดนั้น เลยสั่งเป็นซุปกระดูก และได้ชิมซุปใส รสชาติจะค่อนข้างหนักเค็มพอสมควร ต้มไปเรื่อยๆ ก็จะเค็มขึ้นไปอีก ส่วนต่อมาคือน้ำจิ้ม ราคา 30 บาท เติมได้ไม่อั้น โดยเราจะต้องเดินไปปรุงเอาเอง ชอบอะไรก็ใส่ๆ เข้าไป จริงๆ ควรจะมีระบุว่า อันนี้คืออะไร หรือมีสูตรแนะนำเหมือนที่ไฮติงเหลาทำก็ได้ ก็ต้องวัดดวงกันเองว่าใส่อะไรอร่อย แต่สิ่งหนึ่งที่ใส่แล้วอร่อยแน่นอน ผงชูรสนั่นเอง วัตถุดิบต่างๆ สามารถหยิบได้จากสายพาน โดยจะมีทุกอย่าง ตั้งแต่เนื้อสัตว์ อาหารทะเล เครื่องใน ผัก เต้าหู้ ลูกชิ้น และอื่นๆ อีกมากมายเท่าที่จะนึกได้ สำหรับร้านนี้ที่แนะนำเลยจะเป็นพวก ไส้เป็ด เต้าหู้รูปแบบต่างๆ เส้นบะหมี่ ร้านนี้เลือกของดีมาใช้ อันนี้ชอบมาก ราคาเองถือว่าถูกกว่าอีกร้านเลย แต่หน้าตาวัตถุดิบอาจจะไม่ได้ดูสดใหม่เท่าอีกร้านเท่านั้นเอง ในส่วนของราคาวัตถุดิบต่างๆ ถ้าเป็นพวกไม้หนีบชิ้นละ 10 บาท ส่วนที่เป็นไม้เสียบก็จะมีอีกเรตราคา รวมทั้งเนื้อถาดต่างๆ จะขึ้นไปเลย 40 บาท เมื่อหยิบวัตถุดิบมาใส่หม้อ ก็หยิบพวกไม้เสียบกับไม้หนีบวางใส่ถ้วย ตอนคิดเงินพนักงานจะมานับให้เอง และสุดท้ายคือเครื่องดื่ม ที่จะวางอยู่บนแท่นระหว่างสายพาน อยากกินอะไรก็หยิบได้เลย แต่ดูราคาก่อน โดยเฉพาะพวกเบียร์ที่ราคาแพงมากเลยทีเดียว อีกอย่างที่แพงเช่นกันคือเฉาก๊วยนำเข้า ราคา 120 บาท อันนี้ไม่ได้ลองเหมือนกันว่ามันอร่อยสมราคาหรือไม่ รสชาติอาหารโดยรวม วัตถุดิบถือว่าความสดระดับกลางๆ โดยเฉพาะพวกเนื้อสัตว์อาจจะไม่ได้ว้าวเท่าไร แต่ถ้าเป็นเต้าหู้กับบะหมี่ อันนี้ถือว่าดีต้องลองทานดู ส่วนซุปรสชาติออกไปทางเค็ม ขาดความกลมกล่อมถึงแม้จะต้มไปสักพักแล้วก็ตาม น่าจะปรุงจัดไปหน่อยแหละ และอื่นๆ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เรื่องความสะอาดและบรรยากาศดีกว่าอีกร้านมากๆ การบริการไม่เน้นมากเท่าไร แต่ถ้ามีอะไรก็เรียกพนักงานได้ตลอด ร้านนี้รับเงินสดและเงินโอนเท่านั้นนะ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี