ข้าวต้ม 62 บ๊อก ร้านข้าวต้มที่รักมาก จึงอยากแบ่งปัน เวลาป่วย ๆ หรือรู้สึกไม่ค่อยสบายกาย เหมือนมีไข้อ่อน ๆ ข้าวต้ม มักจะเป็นเมนูปลอดภัย ให้ความอบอุ่นกาย และให้กำลังแก่ผู้ป่วยที่ต้องการพักกาย ลดการทำงานที่หนักหน่วง ของระบบทางเดินอาหาร จากการทำงานตามปกติ คุณแม่ของดิฉันมักจะต้มข้าวต้มสารพัดธัญพืชให้ทานเมื่อรู้สึกไม่ค่อยสบาย ซึ่งแน่นอนว่าคุณแม่มีความหวังดี ต้องการให้ลูกรักได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่า แน่นอนว่าอาหารของแม่เต็มไปด้วยความรัก แต่ในบางครั้ง เราก็ต้องการทานอาหาร ตามที่หัวใจเรียกร้อง อาหารที่ดีนอกจากจะต้องเต็มเปี่ยมด้วยคุณค่า เพื่อร่างกายแล้ว ยังต้องมีรสชาติและสัมผัสที่ดีต่อใจด้วยนะคะ บางทีอาหารที่ทำให้เรารู้สึกดี ก็เป็นอาหารที่ง่าย ๆ ที่เรารู้สึกคุ้นเคย และสบายใจสบายกายเมื่อได้ทาน ดิฉันมักจะแอบออกไปทานข้าวต้ม กับเพื่อนสนิทเสมอ ๆ เมื่อรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ตัวรุม ๆ เหมือนจะเริ่มป่วยเป็นไข้อ่อน ๆ ร้านข้าวต้มในตัวจังหวัดขอนแก่น มีมากมายหลายร้าน ทั้งร้านเก่าแก่ และร้านน้องใหม่มาแรง ดิฉันและเพื่อนสนิท ได้ตะเวนชิมข้าวต้มมาแล้วหลายร้าน ในที่สุด เราก็ค้นพบร้านข้าวต้มที่ดีงาม เป็นร้านข้าวต้มที่เราทั้งคู่รักมาก จนเลิกทานข้าวต้มร้านอื่น ๆ ไปเลยค่ะ ร้านข้าวต้มที่ว่านี้ ตั้งอยู่ในตลาด 62 บล็อค ริมถนน กัลปพฤกษ์ ถ้าเดินเข้ามาในตลาด ร้านจะตั้งอยู่ด้านในเกือบสุด ติดกับโทรทัศน์จอยักษ์ ที่เปิดให้ชมรายการโทรทัศน์ และฟุตบอลตามฤดูกาล ชื่อร้านก็ตั้งเรียบง่าย ตามชื่อของตลาด คือ ข้าวต้ม 62 บ็อก ในตอนแรกดิฉันและเพื่อนสนิทเพียงแค่ต้องการทานอะไรร้อน ในช่วงฤดูหนาว ไม่ได้คาดคิดเลย ว่าร้านข้าวต้มแห่งนี้ จะดีงาม มีคุณภาพและรสชาติเกินคาดหมายนัก ทางร้านจะมีรายการอาหารติดอยู่ด้านบน ให้เราได้พิจารณาแล้วหยิบกระดาษปากกา ขึ้นมาจดรายการอาหารที่ประสงค์ รายการอาหารทุกชนิด ราคา 30 บาท! และหากอาหารใดที่มีราคาแตกต่างไป ทางร้านก็ได้ติดราคาไว้อย่างชัดเจน ไม่มีตุกติก เมื่อเราสั่งแล้ว ทางร้านจะปรุงอาหารให้ตามรายการที่เราสั่ง จากนั้นก็จะเรียกให้มารับอาหารค่ะ ดิฉันผู้ไม่นิยมผงชูรส ก็ต้องเขียนทุกครั้งว่า ไม่ใส่ผงชูรส เพราะทานเมื่อไร ปากพอง ๆ แถมกระหายน้ำไม่หยุดทุกที ส่วนข้าวสวยและข้าวต้ม ราคาถ้วยละ 2 บาท เท่านั้นค่ะ! ข้าวสวยและข้าวต้ม เป็นข้าวหอมมะลิเมล็ดสวยนะคะ ไม่ใช่ข้าวแข็ง ๆ แห้ง ๆ ราคาถ้วยละ 2 บาทเท่านั้นเองด้วย ในครั้งแรกที่พวกเรามาทาน และเรารักทุก ๆ จาน มากี่ครั้งพวกเราก็ทำใจลำบาก เพราะเมนูเก่าที่ชื่นชอบก็อยากทาน แต่ก็อยากลองชิมเมนูอื่น ๆ ด้วย และเหล่านี้ คือเมนูที่พวกเรารัก และต้องสั่งเป็นประจำค่ะ... (ทานแค่สองคนนะคะ) จับฉ่าย ราคาถ้วยละ 30 บาท จับฉ่ายของทางร้าน รสชาติละมุนลงตัวมาก ๆ ค่ะ โดยทั่วไปเราจะพบจับฉ่ายเค็ม ๆ หรือจืด ๆ ผักเละ ๆ แต่จับฉ่ายของทางร้าน รสชาติกลมกล่อมพอดีมาก ๆ หวาน เค็ม ลงตัวพอดี ผักตุ๋นก็นุ่มเปื่อยกำลังพอดี ไม่เละยุ่ย จนตักขึ้นมาแล้วขาดหลุดลุ่ยเป็นผุยผง และที่สำคัญคือ ไม่มัน! ไม่มีน้ำมันลอยเยิ้ม ชวนสยอง ทานสบายรู้สึกอบอุ่นเหมือนตอนนอนหนุนตักแม่ ดื่มนมขวดอุ่น ๆ แล้วสบายใจ รู้สึกปลอดภัย กำลังจะเคลิ้มหลับ อะไรขนาดนั้นเลยเชียว ผัดหมูหนำเลี๊ยบ จานละ 30 บาท เป็นหมูผัดหนำเลี๊ยบที่รสชาติงดงามมากค่ะ เราจะพบบ่อย ๆ ที่หลาย ๆ ร้าน จะผัดหนำเลี๊ยบเค็มปี๋ ๆ และกระหน่ำใส่พริกไทย จนเผ็ดร้อน ไม่ได้รสชาติอะไรเลย เค้ม เผ็ด เหม็นฉุน ไร้ความสมดุลทางรสชาติ ดิฉันจึงหลีกเลี่ยงที่จะสั่งเมนูนี้ เนื่องจากไม่ต้องการเสี่ยงสุขภาพไต ของตนเอง กับอาหารที่คาดเดาได้ว่าต้องเค็มมากแน่ ๆ แต่ด้วยความที่เพื่อนสนิทของดิฉันไม่เคยทานหนำเลี๊ยบ คุณเธอจึงต้องการชิม โดยมีดิฉันเป็นกองกำลังเสริม ช่วยกันทานให้หมด หากรสชาติน่ากลัวจนทานคนเดียวไม่ไหว ซึ่งดิฉันขออนุญาติตกใจ ในรสชาติที่ละมุนละไม ของหมูผัดหนำเลี๊ยบของทางร้านสักหน่อยนะคะ เ ไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าหมูผัดหนำเลี๊ยบราคา 30 บาท จานนี้ จะมีรสชาติดีงาม จนเกินต้านทานจริง ๆ หมูบดที่นำมาผัด ก็เป็นเนื้อหมู ไม่ใช่ไขมันปนหมู จึงไม่เลี่ยนเอียนน้ำมัน สัดส่วนของหนำเลี๊ยบที่ใส่มา เหมือนได้รับการคำนวนมาแล้วว่า ใส่ปริมาณเท่านี้ จะได้ปรุงรสชาติที่เค็มได้พอดี และใส่พริกไทยลงมา เพื่อให้ได้รสชาติพริกไทย ในผัดหนำเลี๊ยบ ไม่ใช่ผัดหมูหนำเลี๊ยบรสชาติพริกไทยล้วน ๆ ใครยังไม่เคยลองทานผัดหนำเลี๊ยบ แนะนะเริ่มต้นที่ตรงนี้นะคะ กะหล่ำผัดน้ำปลา ราคา 30 บาท ดิฉันเป็นคนชอบทานผัก ซึ่งกะหล่ำผัดน้ำปลา เป็นเมนูที่ดิฉันและเพื่อนสนิทชื่นชอบกันทั้งคู่ แต่เราเลือกที่จะไม่ทำทานเองทั้งคู่ เพราะไม่ไหวจะต่อสู้กับกลิ่นของน้ำปลา ที่เกาะติดตัวและครัวของเรา ดังนั้น เมื่อเหลือบไปเห็นว่าทางร้านมีเมนู กะหล่ำผัดน้ำปลา พวกเราก็ตาลุกวาวในทันที พร้อมใจกันสั่งเมนูนี้ โดยไม่ต้องเสียเวลาพิจารณากันให้ยาวนาน ทางร้านจะผัดกะหล่ำให้จานต่อจาน เราจึงได้ทานอาหารร้อน ๆ ไม่ใช่ผัดใส่ถาดไว้ แล้วค่อยตักใส่จานให้นะคะ ผักกะหล่ำนั้นมีความนุ่มพอดีมาก ๆ ราวกับผ่านการลวกมาให้นุ่มก่อน แล้วจึงนำมาผัด แล้วที่สำคัญที่ ทานไปจนหมดจาน เราไม่พบว่ามีผักชิ้นไหนเหนียวแข็ง เลยแม้แต่น้อย แสดงถึงความใส่ใจของทางร้าน ในการคัดเลือกผักในขั้นตอนการหั่นผัก เพื่อให้ได้กะหล่ำผัดน้ำปลาที่มีมาตรฐานดีงาม ดิฉันและเพื่อนไปทานกี่ครั้ง ก็ยังคงมาตรฐานเดิมนะคะ ในส่วนของรสชาติ ก็เค็มพอดี ๆ เค็มแบบเรียบร้อย ๆ งาม ๆ กุลสตรี เป็นอาหารจานที่รสชาติดีถูกใจมาก ๆ อีกหนึ่งจาน ที่ทำให้ทานผักได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องกลัวไตพัง คะน้าหมูกรอบ ราคา 30 บาท ที่เรารักกันมาก ๆ อีกเช่นกัน มาถึงเมนูง่าย ๆ จานที่พวกเราแนะนำ ว่าไม่ควรพลาด คือ คะน้าหมูกรอบรสดี ซึ่งหมูกรอบจริง และคะน้าดีจริง ในราคาเพียง 30 บาทนี้ ทางร้านได้คัดคะน้า ให้มีแต่ส่วนที่กรอบนุ่ม ไร้ส่วนก้านที่แข็งแรง เปี่ยมด้วยกากใย จนไม่สามารถเคี้ยวกลืนได้ ความใส่ใจนี้ แสดงถึงทัศนคติที่ดีงาม ในการดำเนินกิจการจริง ๆ นะคะ นอกจากจะจริงจังในเรื่องรสชาติที่ดีแล้ว ยังเต็มที่ในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ ได้เจอร้านข้าวต้มคุณภาพดีแบบนี้ ก็ต้องรักมาก และอยากแบ่งปันให้ท่านอื่น ๆ ที่ชื่นชอบข้าวต้มได้ทานกัน อยากให้ร้านอาหารที่น่ารักแบบนี้ ได้มีพื้นที่ส่งมอบความดีงามให้พวกเราไปนาน ๆ คะ ใครยังคิดเมนูมื้อเย็นไม่ออก ลองชวนกันไปทานข้าวนอกบ้าน เปลี่ยนบรรยากาศกันดูก็ดีนะคะ ข้าวต้ม 62 บ๊อก ราคาน่ารักขนาดนี้ รับรองว่าทานแล้วอิ่มจนจุก แถมมีสตางค์เหลือ ไม่ต้องไปแย่งต่อคิวบุฟเฟต์ราคาแพง ๆ กันเลยหละค่ะ #อร่อยนี้ที่ขอนแก่น #รีวิวสายเงียบ