Restaurant / Area
Bo.lan
Top
Reviews
(5)
Photos
(67)
Map
Mook Rsiri
1
Followers
Dinner
Best namprik and spicy salad I ever had in my life
No image available
2
1
18/07/07
Other Reviews
Wuttipong Nimorn
47
Followers
20
See all photos
ภาพรวมของร้าน โบ.ลาน ซึ่งแสดงตนว่าเป็นร้านอาหารแบบ Authentic Thai หรือรสไทยแท้นั้น เอาเข้าจริงหาคนให้คำตอบได้ยากว่ารสชาติดั้งเดิมจริงเป็นแบบไหน เพราะไทยเราเองก็รับเอาวัฒนธรรมต่างชาติมาตลอดยุคสมัย รูปแบบการนำเสนอของร้านจะมาในลักษณะของคอร์สและแบบสั่งแยก สามารถเพิ่มเติมเมนูอื่นๆเข้าไประหว่างมื้อได้ วัตถุดิบที่ใช้เฟ้นหาอย่างพิถีพิถันถึงแหล่งกำเนิด เป็นการกินที่สนับสนุนผู้ผลิตตัวจริง เรียกว่า ‘กินเปลี่ยนโลก’ ได้ครับ การไล่เรียงตั้งแต่เครื่องดื่มเปิดคอร์ส ซึ่งเป็นยาดองที่กระตุ้นต่อมรับรสก่อนเข้าสู่จานถัดไป คลื่นความตื่นเต้นที่ร้อยเรียงสลับกับความอร่อยและซึมซับเรื่องราวของวัตถุดิบดีๆ เป็นแกนใจหลักของร้านโบ.ลาน ที่ต้องการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นหมูหลาม, ส้มฉุน, กุ้งแม่น้ำจากอยุธยา, ชุดขนมไทย, ข้าวแรมฟืน, ซุปหางวัว ฯลฯ เยอะมากๆๆๆ เป็นการยกระดับอาหารไทยที่นำเสนอชาวต่างชาติได้ดีครับ ราคาก็ถือว่าสูงอยู่นะ (เรท Fine Dining ย่านนี้ก็ประมาณนี้) สำหรับลูกค้าที่คุ้นชินกับอาหารบ้านเราอยู่แล้วคงตื่นเต้นน้อยลงมากกว่า คล้ายๆกับจัดงานหนังตะลุงให้คนใต้ดู เค้าอยากเห็นอย่างอื่นมากกว่า อะไรทำนองนั้นน่ะครับ ไม่แปลกที่จะเกิดความคิดที่ว่า มันสมควรต้องแพงขนาดนั้นไหม ซึ่งก็ต้องจูนตรงนี้ให้ตรงกัน ด้วยความสำคัญของวัตถุดิบ
See more
Achaya Israngkura
431
Followers
31
See all photos
#Dec2018 [1-Michelin Star 2018-2019] Bo.lan – ร้านอาหารที่พาอาหารไทยที่เราคุ้นเคยกันขึ้นสู่ระดับ Haute Cuisine นี้เป็นของเชฟโบ – ดวงพร ทรงวิศวะ ผู้เคยได้รับรางวัล Asia’s Best Female Chef และเชฟ Dylan Jones ค่ะ นอกจากจะโด่งดังจนเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมานาน ติดโผ Top 10 มาแล้วหลายสำนัก ยังได้รับ 1 Michelin Star ปี 2018-2019 นี้ด้วย เมื่อมีโอกาส ก็ต้องขอมาลองเป็นประสบการณ์ดูซักทีค่ะ ****- Concept -**** ชื่อของร้าน Bo.lan (โบ.ลาน) นั้นนอกจากจะเป็นการนำชื่อย่อของเชฟทั้งสองมารวมกัน ยังพ้องเสียงใกล้เคียงกับคำภาษาอังกฤษว่า Balance ซึ่งสื่อถึงวิถีการกินอยู่อย่างไทยที่นิยมนำอาหารหลากหลายชนิดมาทานร่วมกันในแต่ละมื้อจนได้ดุลยภาพทางรสชาติ - และคำว่า “โบราณ” ซึ่งแสดงถึงความหลงใหลของเชฟโบที่จะสรรค์สร้างเมนูต่างๆขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจทั้งจากการเดินทางไปยังที่ต่างๆ การศึกษาตำราอาหารเก่าแก่และสูตรอาหารที่ถูกหลงลืม การพูดคุยกับชาวนา ชาวไร่ ไปจนถึงผู้รู้ด้านอาหารทั้งหลาย อาหารที่ Bo.lan จึงไม่ใช่จะมีแต่อาหารชาววัง แต่รวมไปถึงอาหารพื้นบ้านจากภูมิภาคต่างๆ โดยรักษารสชาติที่กลมกล่อมบ้าง จัดจ้าน เผ็ดร้อนบ้างตามแต่ที่อาหารนั้นๆควรจะเป็น คงไว้ซึ่งรสชาติแบบไทยแท้ๆ แต่ปรับรูปลักษณ์การนำเสนอให้เข้ากับรสนิยมสากลได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ทางร้านยังให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศ และการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งหมายจะเป็น Zero Carbon Footprint Restaurant ด้วย น่าชื่นชมทีเดียวค่ะ ****-ข้อมูลพื้นฐาน-**** Bo.lan ให้บริการเป็น 2 ช่วงคือ ● มื้อกลางวัน – แบ่งการให้บริการเป็น 2 แบบ คือ Bo.lan Prix Fixed Menu หรือชุดสำรับอาหารกลางวัน และ Single Plates หรืออาหารสั่งเป็นจานค่ะ ● มื้อค่ำ – ให้บริการแบบสำรับอาหารเท่านั้น โดยมีเป็นเซ็ทต่างๆให้เลือก อาหารในเซ็ทจะเปลี่ยนแปลงทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้เข้ากับวัตถุดิบที่หาได้ตามฤดูกาลค่ะ ใครสนใจ Wine Pairing ทางร้านก็มีจัดให้นะคะ ****-บรรยากาศ-**** เป็นร้านที่บรรยากาศดีงามเปี่ยมไปด้วยรสนิยมที่เฉียบคมร้านนึงเลยล่ะค่ะ ตัวร้านเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ ตกแต่งแบบบ้านไทยโบราณ ผสมผสานกับความร่วมสมัยแบบตะวันตกได้กำลังพอดีๆ ไม่รก ไม่เชย มีสระน้ำสีฟ้าใสแจ๋วและสวนร่มรื่นอยู่ด้านหน้า เพียงก้าวเข้าในร้านก็จะเห็นบริเวณที่ขายสินค้าไทยๆในรูปแบบ package เก๋ไก๋ มีตั้งแต่กะปิ น้ำปลา ไปจนถึงเครื่องใช้สอยต่างๆ ถัดไปเป็นพื้นที่ต้อนรับที่เป็นโซฟาน่าสบาย ตกแต่งด้วยเครื่องจักสานและดอกไม้ไทยๆ ในส่วนของห้องอาหารก็ผสมผสานเครื่องตกแต่งอย่างไทยเข้ากับเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ สวยงามน่ารื่นรมย์เป็นที่สุด ****- Welcome Drink -**** เริ่มแรกมาถึง พนักงานจะเชิญให้นั่งพักที่ห้องรับรองด้านหน้าก่อน แล้วเสิร์ฟเครื่องดื่มกับของว่าง (Complimentary) เป็นการต้อนรับค่ะ ในส่วนนี้จะมีการนำ Drink Menu มาให้ดูด้วย (ถ้าสั่งก็จ่ายเพิ่มต่างหาก ไม่รวมในชุดอาหารนะจ๊ะ) นอกจากจะมี Cocktails และเหล้า ไวน์ ต่างๆทั่วไปแล้ว ยังมี Thai Craft Beer หลายตัวให้สั่ง เข้ากับภาพลักษณ์เน้นความเป็นไทยของร้านดีจริงๆ ● น้ำตะไคร้ – เสิร์ฟมาในขันใบจิ๋ว หอมๆเย็นๆชื่นใจค่ะ ● Welcome Snacks – ยกมาเป็นชุดทั้งข้าวเม่า ถั่วลิสงต้ม และกรอบเค็ม แม้จะเป็นของธรรมดาที่ดูว่าหาได้ทั่วไป แต่ก็คัดมาดี ข้าวเม่ากรอบกริ๊บแบบเพิ่งทำมาใหม่ๆ ถัวลิสงคัดแต่เม็ดโตๆอวบๆ กรอบเค็มก็กรอบใหม่จริงจัง ทานกรุบกริบเพลินไปเลย ● Full Moon Chatri IPA – สั่งต่างหากจากเมนูเครื่องดื่ม เป็น Craft Beer ที่มีกลิ่นแฝงแบบ Floral / Citrus ตามมาด้วยกลิ่น Grapefruit บางๆ คนดื่มเค้าบอกว่าดีใช้ได้ล่ะนะ ****- Prologue : A Peek into the Kitchen -**** การมาทานแบบ “สำรับอาหาร” ที่นี่นั้น เปรียบไปแล้วก็มีลีลาที่ชวนให้นึกถึงมหรสพอย่างละครชาตรีที่มีเรื่องราวบอกเล่าร้อยเรียงเป็นฉากเป็นองก์ เมื่อเสร็จจากการต้อนรับในเบื้องต้นแล้ว เราจึงได้มาถึง “ฉากเปิดม่าน” ก่อนจะเริ่มอาหารมื้อใหญ่ โดยพนักงานจะนำเราเข้าสู่ห้องครัวของทางร้าน ผ่านเหล่าคนครัวที่กำลังตระเตรียมอาหารขะมักเขม้น ไปยังเคาน์เตอร์ที่เชฟได้เตรียมของว่างคำแรกไว้ให้เราชิมกัน... ● ข้าวฤดูโรยน้ำตาลคั่วมะพร้าว ทานกับมะม่วงสุก – แนวคิดแบบเดียวกับที่เราเห็นคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อนชอบทานข้าวกับผลไม้ แต่นำมาปรับแต่งให้ละเมียดยิ่งขึ้น ข้าวฤดูเม็ดนุ่มเสิร์ฟมาบนช้อน วางเคียงไว้กับชิ้นมะม่วงสุกเหลืองที่คัดมาอมเปรี้ยวอมหวานกำลังได้ที่ เมื่อเชฟทำการโรยมะพร้าวคั่วน้ำตาลลงบนข้าวเสร็จก็พร้อมให้หยิบทานได้เลย เป็นการเริ่มต้นด้วยรสชาติที่สดชื่นดีทีเดียว ****- สำรับอาหารมื้อค่ำ “โบ.ลาน ภักษาหาร” -**** จบจากในครัวแล้วพนักงานจึงพาเรามานั่งที่โต๊ะอาหาร สำรับอาหารมื้อค่ำที่เลือกครั้งนี้คือชุด “โบ.ลาน ภักษาหาร” โดยรายการอาหารในรีวิวนี้จะเป็นของช่วงเดือน มีนาคม – พฤษภาคม 2561 นะคะ [Apéritifs] ● เหล้าอย่างยาดองม้ากระทืบโรงกับผลไม้รสเปรี้ยว – เรียกน้ำย่อยกันด้วยยาดองม้ากระทืบโรงที่ดมแล้วกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนเลยทีเดียว รสชาติบอกไม่ได้เพราะไม่กล้าชิมค่ะ สำหรับคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ทางร้านจะเสิร์ฟเป็นน้ำมะตูมให้ แกล้มมาด้วยเครื่องเคียงอย่างเดียวกัน คือมะม่วงกวนและลูกหยีเสียบไม้มาสวยๆ มีสเปรย์ที่ทำจากน้ำใบเตยมาให้ฉีดเป็น mouth freshener หลังดื่มด้วย เก๋ไก๋ดีทีเดียว [เริ่มแรกระเริงรส] เป็น Amuse Bouche 5 อย่างที่จัดเรียงเดี่ยวมาในจานทรงยาวอย่างละ 1 คำ โดยให้ทานจากซ้ายไปขวาตามลำดับนี้ค่ะ ● เมี่ยงมะปราง – เนื้อมะปรางคว้านเมล็ดออก แล้วใส่ไส้ที่เป็นหมูผสมกุ้ง รสชาติคล้ายๆไส้เมี่ยงลาว ● ทอดมันปลา – ชิ้นพอดีคำ ทอดมาแบบผิวนอกกรอบจริงจัง ตัดกับเนื้อนุ่มด้านใน ทานเพลินดีจริงๆ ● ข้าวยำไข่ต้มน้ำพริกมะขาม – คลุกเคล้าใส่ถ้วยมาให้ทานง่าย ปรุงรสเป๊ะทีเดียว ● กะหรี่พัฟไส้ฟักทอง – ใส่ถุงกระดาษใบจิ๋วมาเก๋ๆ รสชาติกลางๆ แต่ก็กรอบใหม่ดีล่ะ ● มะม่วงน้ำพริกกะปิ – ว่าไปแล้วก็ไอเดียคล้ายมะม่วงน้ำปลาหวานนั่นเองนะ ในส่วนนี้จะรู้สึกได้ถึงการจัดอาหารรสเปรี้ยวหวานสดชื่นสลับกับของทอด จานรสจัดสลับกับของรสอ่อน ในภาพรวมถือว่าจัดองค์ประกอบได้ลงตัวดีมากค่ะ [จานเดี่ยวจานเดียว] ● ขนมจีนครามแดงกับแตงกวามะม่วงเปรี้ยว – ขนมจีนเส้นสดนุ่มเหนียว รสชาติน้ำราดคล้ายขนมจีนน้ำพริก ท็อปด้วยไก่ต้มฉีก โรยแตงกวาผสมมะม่วงเปรี้ยวขูดเป็นเส้น แต่งกลิ่นรสด้วยหอมเจียวและพริกแห้ง จานนี้คือทำออกมาได้เป๊ะเว่อร์ รสชาติกำลังพอดิบพอดี อร่อยฟินสุดๆ... [กับข้าวกับปลา] ไม่อยากจะเรียกว่าเป็น “Main Course” เพราะทางร้านเองก็ระบุไว้ชัดเจนว่าเสิร์ฟอาหารเป็น “สำรับ” ให้มาทานร่วมกันตามวิถีไทยแท้ๆ เสิร์ฟอาหารแบบ “กับข้าว” มาหลายจานพร้อมๆกันเพื่อให้ทานสลับ เสริมรส-ตัดรส กันไปมาได้ค่ะ ● ข้าว – สามารถขอเติมได้ไม่จำกัด มีให้เลือก 2 สายพันธุ์ คือข้าวใหม่ยโสธร กข105 และข้าวกล้องงอกร้อยห้าสิบสายพันธุ์เกษตรอินทรีย์ เกี่ยว 2560 ค่ะ (พูดง่ายๆก็คือมีข้าวสวยกับข้าวกล้องนั่นล่ะเนอะ) ● ยำปลาอินทรีย์ปัตตานีรมควันใส่มะม่วงมัน – รสยำทำมาแบบกลมกล่อมไม่ได้จี๊ดมาก โดดเด่นที่เนื้อปลานุ่มๆที่แกะมาเป็นพูใหญ่ๆน่าทาน หอมกลิ่นรมควันชัดเจน อร่อยแบบมีเอกลักษณ์ เล่นเอาติดใจเลยทีเดียว ● ผัดไก่ใบจันทร์ แนมไข่ต้มยางมะตูม และหนังไก่ทอด – เมื่อเป็นอาหารจำพวกผัดเผ็ด ทางร้านก็ทำออกมาได้เผ็ดร้อนจริงจังแบบไม่มีการเกรงใจฝรั่ง ขนาดคนไทยอย่างเราทานยังเหงื่อซึม รสแบบอาหารไทยแท้ๆเลย ถึงอกถึงใจดีค่ะ ได้ไข่ต้มแกล้มยิ่งเข้ากัน ต้มเป็นยางตูมกำลังดีเลย ● แกงแบบเข้ากะทิอย่างใส่เครื่องแกงพริกเหลืองสดกับกุ้งพังงาและหมึกย่างอย่างปลากะเบนฝนตกของ หม่อมหลวงหญิงจันทร์เจริญ รัชนี – เดาว่าเมนูคงพิมพ์พระยศผิด เพราะน่าจะตั้งใจให้หมายถึงหม่อมเจ้าหญิงจันทร์เจริญ รัชนี (พ.ศ. 2445 -2515) เจ้าของนามปากกา “จ จ ร” ผู้ได้มีผลงานประพันธ์ตำราอาหารขึ้นหลายเล่ม ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นหนังสือเก่าที่หายากไป และเชฟโบก็ได้นำหนึ่งในหลายๆสูตรอาหารของท่านมาศึกษาตีความจนได้ออกมาเป็นเมนูนี้ให้เราได้ชิมกัน ว่ากันถึงรสชาตินั้นคล้ายคลึงแกงเขียวหวาน เลยเดาว่าอาจมีการปรับสูตรน้ำพริกแกงจากที่ใช้พริกขี้หนูเขียวมาเป็นพริกเหลืองสดอะไรทำนองนี้ ซึ่งกับฝีมือร้านระดับนี้นั้นเรื่องการผัดเครื่องแกงกับหัวกะทิจนหอมหวล – น้ำแกงเข้มข้นแตกมันสวย เป็นอันทำได้ดีไม่มีพลาดอยู่แล้ว รสชาติก็มีความเผ็ดร้อนถึงเครื่องตามที่ควรจะเป็น ในส่วนของเนื้อสัตว์ แทนที่จะเป็นหมูหรือไก่แบบร้านทั่วไป ก็เพิ่มความอลังการด้วยกุ้งตัวอวบและปลาหมึก เข้ากันดีเหมือนกันนะ ● ต้มจิ๋วเนื้อน่องลายวัวกำแพงแสนอย่างกินคล่องคอ – มาเป็นซุปถ้วยเล็กของใครของมัน สำหรับคนไม่ทานเนื้อวัวจะได้เป็นแกงร้อนกะทิไก่แทนคุณ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งนะคะ ● แกงร้อนกะทิไก่แทนคุณ – รสชาติน้ำซุปคล้ายต้มข่า แต่ปรุงได้นุ่มนวลกลมกล่อม ครีมมี่นิดๆทานเพลินมากๆ ใส่เครื่องมาทั้งกุ้ง ปลาหมึก เนื้อไก่ปั้นก้อน และวุ้นเส้น ฟินมากมาย... ● น้ำพริกป่าอย่างของ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช จากหนังสือ น้ำพริกแนมสะตอไข่ และปลาหมึกชุบแป้งท้าวทอด – เป็นน้ำพริกที่อร่อยได้ใจมากๆ ทั้งความเผ็ด-เปรี้ยว-เค็ม คือได้สมดุลลงตัวสุดๆ ทานกับสะตอชุบไข่ทอด ผักต้ม และปลาหมึกชุบแป้งท้าวทอดขมิ้นก็เข้ากั๊นเข้ากัน ดีงามน้ำตาจิไหล ● ของแนมประจำวัน – ของวันที่ไปเป็นอาจาดปีนัง แตงกวาสดกรอบฝานเป็นเส้นยาว โรยงาพอหอมๆ ราดน้ำคล้ายสะเต๊ะ หยอดหัวกะทิ ใช้เป็นของทานแกล้มตัดรสหนักๆจากจานอื่นค่ะ กับอาหารในสำรับส่วนนี้ถ้าดูแยกเป็นจานๆคือปรุงมาได้รสชาติดีงาม อร่อยทุกอย่างแบบไม่มีอะไรจะติ ให้คะแนนเต็มได้ทุกจาน น้ำปลาพริกที่เอามาวางนี่ไม่ได้แตะกันเลย แต่ถ้ามองในภาพรวมของมื้อ การคัดเลือกอาหารมาร่วมในสำรับยังเสริมรส-ตัดรสกันได้ไม่ดีเท่าไหร่ คืออาหารส่วนใหญ่โปรไฟล์รสชาติจะคล้ายคลึงกัน ไม่มีจานที่ให้รสเปรี้ยวสดชื่นมาใช้เบรคความเผ็ดความมันเพื่อช่วยรีเซ็ทลิ้น (แม้กระทั่งอาจาดก็ใส่หัวกะทิ) และไม่มีจานไหนเป็นอาหารที่ออกรสหวานเพื่อตัดรสแก้จำเจ ในแง่ของการจัดเป็นชุดสำรับจึงถือว่ายังไม่สมบูรณ์แบบครบรสนะคะ [หวานหวานเย็นเย็น] ● ผลไม้ลอยแก้ว – หลังจากชุดกับข้าวที่รสค่อนข้าง “หนัก” ของหวานชามแรกที่จัดมาเป็นผลไม้ลอยแก้วเปรี้ยวๆหวานๆเย็นสดชื่นนี่ถือว่าเหมาะเจาะเชียวค่ะ ผลไม้ที่ใส่มามีทั้งมะปราง ลูกตาล และส้มเช้ง ลอยแก้วมาในน้ำเชื่อมดอกมะลิหอมกรุ่น โรยมะม่วงดิบและขิงอ่อนเพิ่มความเปรี้ยว-หอม ได้อย่างมีชั้นเชิงดีทีเดียว [ขนมหวาน] ● บัวลอยฟักทอง – บัวลอยฟักทองที่แป้งนุ๊มนุ่มเกือบเหมือนแป้งโมจิ ต้มในน้ำกะทิอบควันเทียน ใส่เม็ดบัวสด ทานเพลินใช้ได้นะ [ขนมหวานอย่างแห้ง] ปิดม่านฉากสุดท้ายของมื้อนี้ด้วย Petit Fours สไตล์ไทยๆ ซึ่งพนักงานจะเชิญเราไปนั่งทานกันที่ Lounge ด้านหน้าเช่นเดียวกับตอนขามาค่ะ ● Petit Fours – ขนมไทยหลากหลายชนิด เสิร์ฟรวมกันมาบนถาดใหญ่ เพิ่มความอลังการด้วยโดมแก้วที่รมควันกระยาสารทไว้ข้างใน นอกจากจะตื่นตากับควันพวยพุ่งเมื่อเปิดโดมแล้ว ยังทำให้กระยาสารทหอมกลิ่นรมควันทุกคำที่กัดเลย ขนมอื่นๆก็เช่นขนมขี้หนู ขนมกล้วย ขนมมัน ทองม้วน มะม่วงกวน สัมปันนี สังขยาฟักทอง ...อร่อยมาก-น้อยคละกันไป ที่ชอบเป็นพิเศษคือขนมครกที่ผิวนอกกรอบจริงกรอบจังหอมไหม้นิดๆ ไม่เหมือนของที่อื่นเลยล่ะ ****- The Verdict-**** เรื่องทักษะฝีมือนั้นไม่มีข้อกังขา รสชาติอาหารจัดว่าอร่อยทุกจานไม่มีพลาด แต่สิ่งที่ทำให้รีวิวร้านนี้มีหลายกระแสคือราคาที่สูงลิบและมุมมองของผู้ที่มาทานนั่นเอง เพราะแม้จะอร่อยขั้นสุดยังไง ก็ยังมีร้านอื่นๆที่ทำรสชาติได้ใกล้เคียงกันในราคาย่อมเยากว่า ร้านนี้จึงเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับอาหารในแง่ของประสบการณ์ อยากลิ้มรสอาหารที่มีดีเทลต่างออกไป อยากสัมผัสเสน่ห์ของวิถีการกินอย่างไทยๆที่แฝงไว้อย่างแยบยล แวดล้อมด้วยบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์นั่นเอง
See more
Supika Chanta
196
Followers
15
See all photos
It’s hard to find my favourite Thai fine dining cuisine. But I like their ม้ากระทืบโรง and แกงขี้เหล็ก though... ⭐️
See more
บัณฑิต ภิญโญวัฒนชีพ
276
Followers
bo.lan อาหารไทยหากินยากต้องที่นี่แหละ เชฟโบ เชฟพิธีกรจากรายการกินอยู่คือที่หลายคนคุ้นเคย เชฟไปเสาะหาสูตรอาหารโบราณมาให้ชิมกัน ในรูปชืีอขนมจีนรักษาคล้ายขนมจีนน้ำพริกแต่เผ็ดเปรี้ยว #newyear
See more
Bo.lan
Nearby restaurants
TENRI STAMINA RAMEN 天理スタミナラーメン
Thonglor, Ramen
Sendai ramen Mokkori
Thonglor, Ramen
Kosirae
Thonglor, Korean
GENPUKAN (Thonglor)
Thonglor, Japanese
Gaa
Thonglor, Fine dining
Seefah at Fifty Fifth Thonglor
Thonglor, Thai
The Oasis Hotel Nikko Bangkok
Thonglor, International
Hishou - Japanese Restaurant
Thonglor, Japanese
Sabu Yakiniku
Thonglor, Yakiniku
Herringbone
Thonglor, Cafe
Unakichi
Thonglor, Japanese
Tokyo Yakiniku Shoutaian (将泰庵)
Thonglor, Yakiniku
Crumbs
Thonglor, Bakery/Cake
Tsuru Udon
Thonglor, -
Nearby areas
Sukhumvit
/
Nana
/
Asoke
/
Phrompong
/
Phloen Chit
/
Chit Lom
/
Ekkamai
/
Thonglor
Nearby categories
Thai
/
Northern food
/
Southern food
/
Porridge
/
A la carte(Single dish)
/
Rice dishes
/
Kuey teow
/
Isan food/Som Tum
/
Barbecued red pork/Crispy pork
/
Khao Kha Mhoo
/
Kao Mun Kai
/
Rad-Nha
/
Yum
/
Jim Jum
/
Rice noodles
/
Wild food
/
Pad Thai/Hoi Tod
/
Boat noodles
/
BBQ(Thai)
/
Moo Kratha
Discover recommended restaurants
Area
Category
Special Contents
Popular restaurants
New restaurants
New reviews
Home