Restaurant collection you might be interested
ร้านสาขาเซ็นทรัลเวสเกต อยู่ที่ชั้น 2 ตรงประตูเข้าห้าง จากรถไฟฟ้าเลยค่ะ ช่วงเวลาฉลองครบรอบ 3 ปี ร้านเปลี่ยนจากข้าวซูชิธรรมดา เป็นข้าวซูชิข้าวสีแดง Akashari เอาข้าวไปผสมกับ น้ำส้มสายชูสีแดงมาทำซูชิซึ่ง เราว่ารสชาติมันดีกว่าค่าปกติมาก โดยที่ เมนูพิเศษนี้ จะมีจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือจนกว่าของจะหมด เมนูพิเศษรอบนี้ต้องยกให้ฮนมากุโระ 3 ชนิด จ่ายเพียง 120 บาท มันฟินมากๆ ส่วนของซูชิกุ้งใหญ่และซูชิแซลมอน เมนูประจำเราที่ต้องสั่งเมื่อมาทาน ก็ไม่มีผิดหวัง พนักงานบริการตามมาตรฐานเหมือนทุกสาขา สั่งอาหารแบบกดเองก็มาถึงรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอนาน แถมชาเขียวฟรี เข้มข้นได้ตามใจ
ร้านชาบูพรีเมี่ยมพร้อมกับเมนูอาหารอื่นๆ สไตล์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ซาซิมิ และ ของทอดอื่น โดยมีราคาที่แตกต่างกันถึง 3 level เริ่มต้นที่ 549 ไปจนถึง 949 และหากอยากได้เนื้อพิเศษเนื้อคาโกโนย่าที่เป็นซิกเนเจอร์ตามชื่อร้าน ก็บวกเพิ่มไปอีก 315 บาท ทั้งหมดมีคิด VAT และ Service Charge ต่างหากด้วยนะ สำหรับสาขาที่มารีวิวนี้เป็นสาขาใน Central Westgate ชั้น 3 ขนาดร้านไม่เล็กและไม่ใหญ่มาก ตอนแรกจะมาทานช่วงร้านเปิดใหม่ๆ แต่ตอนนั้นคนเยอะมาก ตอนนี้ไม่ต้องรอคิว เข้าไปนั่งและสั่งอาหารได้ทันที การสั่งอาหารสามารถทำผ่าน smartphone โดยการ Scan QR เท่านั้น ซึ่งถือว่าสะดวกสบายพอสมควร หลังจากกดสั่งแล้ว ก็รออาหารไม่นานก็เริ่มมาเสิร์ฟแล้ว วันนี้เลือกเป็น Set 749 บาท ซึ่งจะมีเนื้อให้เลือกอยู่ด้วยกัน 6 แบบ ถ้าเป็นเนื้อวัว กับเนื้อหมู ถือว่าคัดคุณภาพมาดี นุ่มอร่อย หั่นสไลด์บางพอสมควรเลยทีเดียว น้ำซุปมีให้เลือก 2 ซุป เลยเลือกเป็นซุปน้ำดำ หรือสุกี้ยากี้ ที่จะเข้ากับหมูมากกว่า และซุปสาหร่ายสำหรับต้มผัก ซึ่งจะมีน้ำจิ้มให้มาต่างหากอีก อันนี้ก็ถือว่าพอใช้ได้ ผักต่างๆ อันนี้สั่งน้อยก็จะมาแบบหรอมแหร่มนิดหน่อย ดังนั้นถ้ากินผักเยอะ สั่งมารอไว้ก่อนเลยก็ดีเพราะอันนี้เสิร์ฟช้ากว่าเนื้อ ความสดอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนเส้น แนะนำให้สั่งเส้นราเมน อันนี้เป็นเส้นสดทำมือ นุ่มมาก ส่วนซูชิกับซาซิมิ อาจจะเป็นข้อด้อยของร้านนี้ก็ได้ ทางร้านไม่ได้ใช้เกรดแบบดีมาก เนื้อจะออกสากๆ หน่อย โดยเฉพาะปลาทูน่าส่วนอากามิ แต่ถ้าเป็นแซลมอน จะออกไปทางลีนๆ ไขมันน้อยตามช่วงเวลา ปิดท้ายด้วยของทอด อันนิ้แนะนำให้สั่ง ทอดมาอร่อยทุกตัว แต่อย่าสั่งเยอะเพราะมันกินพื้นที่ในกระเพราะอาหารเราเหมือนกัน โดยรวมแล้ว ความคุ้มค่าถือว่าปานกลาง ถ้ามาทานเนื้ออย่างเดียว จริงๆ คู่แข่งอย่าง Momo อาจจะให้เนื้อและวัตถุดิบที่ดีกว่าด้วยซ้ำ แต่ร้านนี้จะได้เปรียบตรงที่มีอะไรให้สั่งมากกว่า แต่ก็เช่นกัน ซูชิกับซาซิมิไม่ได้ดีมาก ยังดีที่มีของทอดมาช่วย ส่วนอื่นๆ อย่างเช่นการบริการ อันนี้เสิร์ฟอาหารไว แต่เหมือนกับว่าน่าจะเสิร์ฟผิดโต๊ะ เพราะได้อาหารเยอะกว่าจำนวน แถมโต๊ะข้างๆ ก็สั่งเมนูคล้ายๆ กันอีกด้วย และติดตามพนักงานค่อนข้างยาก เดินไปเรียกน่าจะง่ายกว่า 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
ร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ปัจจุบันก็มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าตลาดที่พูดชื่อก็รู้จักอย่าง Momo Paradise และก็จะมีร้านแนวๆ นี้ที่คล้ายๆ กัน แต่ถ้าใกล้เคียงเลยก็ต้องเป็น Shabu Tomo ร้านชาบูที่มีจุดเด่นคือน้ำซุปที่รสชาติหนักสมุนไพรไม่หนักเค็มหวาน และหม้อที่เรียกว่า หม้ออาราเระนาเบะ หม้อสีเงินที่ร้านชาบูที่พรีเมี่ยมยิ่งกว่าชอบใช้กันเพราะคุมความร้อนได้เสถียรกว่า ส่วนอื่นๆ เหมือนร้านนั้นเลย สำหรับสาขานี้อยู่ที่ชั้น 3 มองตรงไปอีกนิดก็จะเห็นทางเข้าอีเกียบางใหญ่เลย เมื่อเห็นหน้าร้านแล้วก็ถือว่าเงียบเหงาสุดๆ เทียบกับร้านอื่นๆ ที่ต้องต่อคิวกัน โดยร้านนี้จะมี 2 ราคา เริ่มต้น 599++ เบ็ดเสร็จอยู่ที่ 705 บาท มีเครื่องดื่มแล้ว และเพิ่มเงินอีก 100++ เพื่อจะได้เนื้อปลากระพงสำหรับคนรักสุขภาพ (ก็ไม่เชิงนะเพราะเดี๋ยวนี้กระพงเลี้ยงทั้งนั้น) แต่ร้านนี้ไม่ใช่ All you can eat เพราะบางเมนูต้องเสียเงินเพิ่ม เช่น ไข่ไก่ โดยมีฟรี 1 ฟอง ซุปมีให้เลือก 4 แบบแต่เลือกได้แค่ 1 คนต่อ 1 หม้อ ดังนั้นมากัน 2 คนก็จะได้ 2 หม้อเล็กๆ ข้อดีแบบนี้คือความร้อนทั่ว ไม่มีอาการแบบฝั่งนึงเดือด อีกฝั่งนิ่ง และถ้าใครทานเนื้อ ไม่ทานเนื้อ แบ่งกันได้ชัดเจนมาก ซุปที่ให้เลือกก็จะมี ถั่งเช่า ไก่ดำ คอลลาเจน และสุกี้ยากี้ ส่วนตัวแนะนำสุกี้ยากี้ กินง่ายสุด ไม่หวานมากแต่ก็ไม่แนะนำให้ซดเช่นกัน ต้มพวกเนื้อสัตว์และฟองเต้าหู้อร่อย ส่วนคอลลาเจน กลิ่นสมุนไพรเด่นไปนิด โดยเฉพาะขิง น้ำจิ้มสามารถตักเองได้ที่เคาเตอร์ ปรุงได้ตามความชอบ ถ้าปรุงไม่เป็น ก็มีคำแนะนำให้ด้วยเช่นกัน แนะนำให้ปรุงน้ำจิ้มพอนสึ กินจิ้มไข่สนุกที่สุด ใครทานหมูต้องใช้น้ำจิ้มงาขาว เนื้อสัตว์วันนี้ลองทั้งสันคอ และสามชั้น ของเนื้อหมูและเนื้อวัว โดยรวมดีนะ สไลด์ได้บางดี สั่งได้เรื่อย เสิร์ฟเร็วแทบไม่ต้องรอ จิ้มกับไข่ดีมากเหมือนอีกค่ายเลย แต่ทานเยอะๆ ก็จะมีเลี่ยนหน่อย เพราะฉะนั้นเราต้องตักผักมาด้วย ซึ่งผักที่ตัก มีให้เลือกพอประมาณ เสียดายไม่มีปวยเล้ง แต่ที่ชอบสุดๆ คือกะหล่ำปลี เวลาต้มในหม้อแล้วมันกรอบมากๆ แล้วด้วยความที่สไลด์บาง กินลงไปไม่หนักท้องเหมือนกับผักอื่นๆ ส่วนเครื่องเคียงที่คิดว่าดี ก็คือ ฟองเต้าหู้สด อันนี้ตักเองที่เคาเตอร์บาร์ได้เลย ต้มในสุกี้ยากี้อร่อยมาก และอีกอย่างคือ อุด้ง ด้วยความที่เป็นเส้นสด เวลาลงไปต้มมันจะไม่เละ ออกหนึบๆ แล้วซุปมันซึมเข้าไปด้านในอีก สุดๆ อ่ะ ปิดท้ายด้วยของหวาน ก็จะไอศกรีมและโมจิ ส่วนตัวไม่แนะนำไอศกรีม รู้สึกว่ารสชาติมันแปร่งๆ ทั้งชาเขียว และนมฮอกไกโด ส่วนโมจิ อร่อยตามมาตรฐาน เครื่องดื่ม สามารถกดได้ที่ตู้ ยกเว้นชาเขียวมัชฉะ อันนี้ต้องให้พนักงานเทให้ รสชาติดีเข้มข้น สมราคา ส่วนตัวแล้ว รสชาติถือว่าใช้ได้เลย ถึงแม้ว่ารสสมุนไพรจะเด่นกว่าเบสหลักมากไปสักหน่อย วัตถุดิบโดยรวมดี ชอบทุกตัวเลย ทำมาสะอาดดี เสิร์ฟไว ให้บริการรวดเร็ว มีเข้าร่วมโปรโมชั่นบัตรเครดิตหลายค่าย สะดวกบัตรไหน ใช้บัตรนั้นได้เลย โดยเฉพาะ KTC อันนี้ใช้คะแนนแลกลดได้ 200 บาทต่อคนเลยทีเดียว 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
เรียกได้ว่าเป็นร้านประจำอีกร้าน เมื่อมาห้างแล้วหิวๆ ก็จะแวะร้านนี้ หากคิวไม่เยอะ ด้วยความอยากทานเอะไรร้อนๆเลยเลือกสั่งราเมง คุมาโมโต้ (179.-): น้ำซุปเข้มข้นมากค่ะ ไม่เค็มเกินไป แต่ออกทางมันหน่อยๆ เสิร์ฟมาพร้อมหมูชาชูและไข่ยางมะตูม โดยรวมอร่อยเลย เส้นหนึบนุ่มกำลังดี ยากิโซบะห่อไข่ : ผัดมาเข้ากันกำลังดี เมื่อคลุกเคล้าแล้วลงตัวค่ะ เทมปุระ: จานนี้ได้ฟรีจากการสมัครสมาชิกเมื่อครั้งก่อนค่ะ ทอดมาร้อนๆ กรอบอร่อย สตอเบอรี่โซดา (59.-): เมนูนี้น่าจะมารพ้อมช่วงวาเลนไทน์ค่ะ แต่ละเมนูดูเป็นสีชมพูไปหมด ให้ความสดชื่น เปรี้ยวหวานซ่า ครบเลย การบริการ: พนักงานบริการดี รวดเร็ว ปล. ไม่ค่อยชอบการจัดโต๊ะ โซนด้านในดูอึดอัดเกินไป #notsecretlove