เชื่อมั้ยว่า ใน 1 ห้างใหญ่ มักจะมีร้านเล็กๆ ที่คิวยาวกว่าร้านอื่นๆ ไม่ใช่เพราะว่าคนเยอะ แต่จริงๆ คือที่นั่งน้อยไม่สมดุลกับลูกค้าอย่างร้าน Hasul Korean Restaurant ร้านอาหารเกาหลี ใน Siam Center ซึ่งมีที่นั่งรับลูกค้าได้ประมาณ 30 คนต่อรอบ และอาจจะด้วยร้านที่เล็กและลูกค้าเต็มตลอด ทำให้คิวยาวและรอต่ำๆ ก็ประมาณชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง ถ้ามาช่วงพีคๆ ตำแหน่งร้านนี้จะอยู่ที่ชั้น 2 ของสยามเซ็นเตอร์ จะเป็นแนว pop up แต่ตกแต่งเหมือนอยู่ถาวร สไตล์เกาหลีออกโฮมมี่หน่อยๆ ที่นั่งมีประมาณ 30 ที่นั่ง ส่วนใหญ่ก็จะมา 2-3 คน ถ้ามาหลายคนน่าจะรอนานมากๆ จองคิวผ่านหน้าร้านหรือกด QueQ ซึ่งแนะนำอย่างหลังโดยกดตั้งแต่ตอนเดินทางมาถึงสยาม และเผื่อเวลาไว้ประมาณ 30-45 นาทีค่อยไปนั่งหน้าร้าน เมนูอาหารเป็นเกาหลี 100% มีให้เลือกทั้งแบบเมนูกระทะร้อน และเมนูอาหารเกาหลีอื่นๆ ที่เป็นลักษณะจานเดี่ยว ค่อนข้างตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานเน้นทานเร็วๆ และกลับไปทำงานต่อ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จริงๆ จะเป็นวัยรุ่นที่อดทนรอคิวได้มากกว่า สำหรับคนที่สั่งเป็นเซ็ทกระทะร้อน จะเริ่มต้นจากแบบจานเดี่ยวก่อน แล้วก็มีเป็นเซ็ตข้าว จนถึงเซ็ทใหญ่ที่จะเพิ่มเตาและเครื่องเคียงให้อีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 159 บาท จนถึง 229 บาท วันนี้สั่งเป็นเซ็ตใหญ่ 2 ชุด ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ชุดนึงมีเตา แต่อีกชุดจะไม่มีเตาให้ เซ็ตแรกเป็น หมูหมักซอสบูลโกกิ รายการนี้จะไม่ได้เสิร์ฟมาพร้อมกับเตาไฟ เลยอาจจะไม่ได้ร้อนมาก ทางร้านจะหั่นมาเป็นชิ้นพอดีคำ ทานคู่กับผักห่อกับกิมจิอีกนิดหน่อยก็ยังได้ ปริมาณประมาณ 250 กรัม ทานหมดมีจุกเหมือนกัน รสชาติหมูน่าจะหมักหวานไปสักหน่อย เสิร์ฟน้ำจิ้มมาสองตัว อีกเซ็ตเป็น หมูสามชั้น มาพร้อมกับเตาไฟที่ด้านล่างใช้เชื้อเพลิงเป็นแอลกอฮอล์ที่ไหม้ค่อนข้างนาน ถ้ารู้สึกว่าหมูเริ่มไหม้ก็เพียงปัดก้านที่เตาให้ปิด รายการนี้หมูจะค่อนข้างกรอบเพราะย่างมาแล้วระดับนึง ทานได้เลยไม่ต้องรอให้สุกอีก แต่ถ้าอยากได้เกรียมๆ ก็พลิกไปพลิกมาอีกที มีเห็ดย่างมาด้วยกัน มีน้ำจิ้มให้ 2 ตัวเช่นกัน นอกนั้นทุกอย่างเหมือนกันหมด ตั้งแต่ซุปสาหร่ายที่จะติดหวานซึ่งเดาไม่ออกว่าเป็นเพราะน้ำตาล หรือ ผงชูรส ข้าวญี่ปุ่นที่จะออกแข็งหน่อยๆ น่าจะไม่ได้ใส่น้ำส้มสายชูลงไปด้วย เครื่องเคียง 3 อย่าง มีสาหร่าย ถั่วงอกผัดน้ำมันงา และไข่นกกระทาที่เป็นซิกเนเจอร์ รวมทั้งกิมจิที่จะเสิร์ฟมาให้ก่อน โดยรวมพอประมาณรสชาติไม่จัดมาก และไม่สามารถขอเพิ่มได้ รสชาติหลักๆ จะออกไปทางโฮมมี่ไม่จัดจ้านมาก เน้นอะไรที่แบบดั้งเดิม ปรุงเพิ่มเติมนิดหน่อย และปรับลิ้นให้เข้ากับคนไทย ส่วนตัวคิดว่าร้านนี้ไม่ได้อร่อยขนาดต้องกลับมาซ้ำ แต่ถ้าไม่ต้องต่อคิวก็แวะได้เช่นกัน เพราะราคาดีและปริมาณเหมาะสมดี 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
ครัวปักกิ่ง ซ.จุฬา 11 #สามย่าน อยู่คู่สามย่านมาหลายสิบปี ยังคงรสชาติ ปริมาณ และราคาน่ารักเหมือนเดิม เจ้าของเป็นคนจีนแท้ๆ คุยภาษาไทยไม่เก่ง แต่สั่งอาหารรู้เรื่อง ชี้ๆเอาได้ค่ะ ไปทานหลายรอบ เราชอบ 🐙ปลาหมึกชุบแป้งทอด เนื้อตุ๋นมันฝรั่ง เต้าหู้ทรงเครื่อง ข้าวผัดต่างๆ ผัดหอมดีรสไม่จัด หมูผัดเปรี้ยวหวาน บะหมี่น้ำเนื้อตุ๋น 🥟พวกเกี๊ยวนึ่ง เสี่ยวหลงเปาเค้าก็ใช้ได้ค่ะ 💰เริ่มต้นที่ 80฿ จานนึงปริมาณเยอะอยู่ 📍ครัวปักกิ่ง ซ.จุฬา 11 สามย่าน(ติดร้านต้นกก) 🕰 10.00-21.00 น. ทุกวัน 🌍 ลิ้งแผนที่ในคอมเมนต์ #longkindooz #ลองกินดู๊ #ครัวปักกิ่ง #อาหารจีน #เสี่ยวหลงเปา #xiaolongbao
เมื่อเราสั่งหมูกรอบ แล้วเฮียเก๋าเจ้าของร้านบอกว่า “หมดแล้ว!!” สตั๊นกันไปทั้งโต๊ะ ช็อตฟีลสุดๆ ยังดีมีคอหมูทอดมาปลอบใจแทน ชอบร้านเจ๊โอวที่มีความอร่อยสะใจแบบครบครัน ยำแซลม่อนสุดแซ่บ แซลม่อนชิ้นหนา สดเนื้อแน่น มาม่าโอ้โหสุดนัว หอยแครงลวก เต้าหู้ทอด และตบท้ายด้วยเกี๊ยวทอดโรงเรียน เที่ยงคืน ยังมีคนรอคิวเต็มหน้าร้านเลย แต่ถ้าได้โต๊ะแล้วอาหารลงเร็วนะ
วันนี้จะมาแนะนำ ร้านของหวานเจ้าดัง ย่านถนนบรรทัดทอง ที่มีทั้ง คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยว แวะมาชิมกันตลาดยามค่ำคืน ที่ร้านขายของหวาน ที่มีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่ บัวลอย น้ำเต้าหู นมสด เฉาก๊วย เต้าฮวย เต้าทึง ที่สำคัญมีเครื่องให้เลือกเยอะมาก วันนี้สั่ง เต้าทึงน้ำลำใย เสิร์ฟมาชามใหญ่มาก เครื่องอย่างแน่น และสั่ง เฉาก๊วยนมสด ชิ้นใหญ่จุกๆไปเลย อร่อยครับ มีโอกาสมาลองชิมครับ