ถ้าอาจจะถามว่าบุฟเฟ่สุกี้อะไรอยู่มายาวนานมากที่สุดในไทย 1 ในนั้นคงจะเป็นร้านซูกิชิ ร้านบุฟเฟ่สายพานที่เป็นร้านแรกๆ ที่นำเสนอสุกี้แบบสายพาน พร้อมกับซุปหลากหลาย และโซนอาหารญี่ปุ่นที่ตักได้ไม่อั้นในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อก่อนอาจจะมีตัวเลือกไม่เยอะ แต่เดี๋ยวนี้มีร้านแนวนี้เยอะมาก มีทุกเรตราคา หรือแม้กระทั่งเมนูทับซ้อนกัน จนหลายๆ ร้านเริ่มล้มตายจากไปมากมาย แต่ร้านนี้ก็ยังคงอยู่ ถึงแม้อาจจะต้องลด Spec อาหารและราคาขึ้นได้ไม่เยอะเมื่อเทียบกับต้นทุนปัจจุบัน สำหรับสาขาที่มาทานนี้เปิดมาพร้อมกับโรบินสันตั้งแต่แรกๆเลย ขนาดวันธรรมดาลูกค้ายังเยอะ น่าจะถือว่ายังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ที่นั่งมีทั้งแบบบาร์ซึ่งจะมีสายพานวนไหลไปเรื่อยๆ ส่วนโต๊ะแบบติดสายพานก็มี รวมทั้งใครไม่อยากไปวุ่นวายกับสายพานมาก ก็มีที่นั่งด้านนอก ที่สามารถสแกนผ่าน QR และพนักงานก็จะนำอาหารมาเสิร์ฟให้ต่างหาก ซุปมีให้เลือกหลายตัว แต่รอบนี้ขอเลือกเป็นซุปชาบูเริ่มต้น ที่รสชาติจะเบาๆ ไม่หนักรสชาติของผงชูรสมากจนเกินไป น้ำจิ้มทางร้านก็จะเสิร์ฟเป็นตัวน้ำจิ้มสุกี้ที่คุ้นเคย รวมทั้งเครื่องปรุงอย่างกระเทียม พริกสด และมะนาว มีวางไว้ที่โต๊ะแล้ว ในส่วนของสายพาน มีวัตถุดิบแทบทุกอย่าง โดยใครสั่งชุดเริ่มต้นที่ 399+ อันนี้ก็จะมีทุกอย่างในสายพาน ส่วนใครสั่งแพงกว่านั้นจะเป็นพนักงานนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะให้ต่างหากอีกที เบคอน หมูสันคอสไลด์ เนื้อต่างๆ ผัก จะมาแบบมินิมัล นิดๆ หน่อยๆ อยากได้เยอะก็ต้องหยิบเยอะหน่อย หรือถ้าไม่อยากหยิบก็ให้พนักงานนำออกมาให้ได้เช่นกัน ซึ่งอย่างหลังจะได้เยอะกว่า ปริมาณอาหารโดยรวมถือว่าเยอะขึ้นอยู่กับว่าเรากินได้เยอะขนาดไหน ความสดสะอาด ดูดีกว่าโซนอาหารญี่ปุ่นอีก อาหารญี่ปุ่นที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ของทอด โดยรวมส่วนนี้ยังเหมือนเดิม ไม่ค่อยมีใครมาตักสักเท่าไร เทมปุระกับเกี๊ยวซ่าดี ส่วนอีกอันเป็นพวกซูชิ หน้าตาดูยมหน่อยๆ เหมือนผ่านการวางไว้แล้วสักพัก รสชาติก็เฉยๆ อย่าไปเทียบกับซูชิโระ อันนั้นน่าทานกว่าเยอะ เครื่องดื่ม เติมได้ไม่อั้นเหมือนกัน น้ำแข็งมาเป็นเครื่อง กดทานได้ทุกเมนู รวมทั้งชาร้อน แต่ว่าตอนทานรู้สึกว่ามันเย็นเหมือนถอดปลั๊กไปแล้ว ก็แอบเสียดายหน่อยๆ นอกนั้นก็มีไอศกรีม ผลไม้ให้ตักทานหลังจากจบมื้อหลักแล้ว ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนถือว่าดรอปลงไปเยอะมากแล้ว นอกจากจะคิดอะไรไม่ออก หรืออยากทานเยอะๆ ก็อาจจะตัดสินใจมาทานร้านนี้ ไม่ได้ติดเรื่องรสชาติ แต่หน้าตาอาหารควรจะปรับปรุงสักหน่อย และเพิ่มความสะอาดเช่นมีฝาครอบอาหารมาสักหน่อยก็ยังดี แมลงวันในร้านก็มีบินประปรายอยู่เหมือนกัน ใครมีบัตร KTC ก็จะลดค่าอาหารได้อีก 100 บาทสำหรับช่วงนี้เพียงแค่แลกคะแนน ชำระแบบอื่นก็จะไม่ได้ส่วนลดใดๆ เพิ่มเติม 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
เห็นมาแต่ไกลกับร้าน เนื้อล้วนล้วน version grand ในเวอร์ชั่นที่ราคาดีมากๆ บนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งร้านที่มีระบุคำว่า Grand นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 สาขา โดยสาขานี้เป็นสาขาล่าสุด การเดินทางมาร้านนี้เหมาะกับรถยนต์ส่วนตัวที่สุด จอดรถได้บริเวณหลังร้าน ตัวร้านตกแต่งแนวญี่ปุ่นดูแกรนด์ๆ สมชื่อร้าน พร้อมกับพนักงานที่เดินให้บริการรอบร้านเลย ถือว่าจัดการดีระดับนึงเลย เมนูอาหาร จะเน้นไปที่ปิ้งย่างเป็นหลัก โดยเนื้อนำเข้าจากญี่ปุ่น อันนี้จะราคาโดดสักหน่อย ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงเกือบพันนึง และยังมีเนื้อไทยด้วยสำหรับคนที่เน้นปริมาณไม่ได้เน้นรสชาติเป็นพิเศษ แนะนำให้สั่งชุดเริ่มต้นไว้ก่อน แล้วอยากทานเนื้อแพงตัวไหนสั่งอีกที โดยวันที่มาเนื้อหมดเกือบทุกอย่างแล้ว เลยได้ลองเพียงเท่านี้ - Akita A4 ราคา 690 บาท Striploin เนื้อจานหลักที่มาเป็นจานรูปวัวสีทอง แบ่งเป็น 8 ชิ้น ลายสวยเหมือนหินอ่อน เพียงแต่อันนี้ทานได้ แนะนำให้หยิบใบโรสแมร์รี่ วางบนกระทะแบนญี่ปุ่นที่ข้างล่างเป็นถ่านไฟร้อนๆ เดือดรุนแรงเมื่อวางลงไป ให้มีความชมพูนิดๆ ก่อนนำมาจิ้มกับน้ำจิ้มของร้านซึ่งมีเยอะมาก เยอะจนเลือกไม่ถูก แต่ส่วนตัวจะชอบจิ้มกับวาซาบิดอง และซอสเห็ดทรัฟเฟิล ขับความหวานและหอมของเนื้ออกมาได้อย่างอยู่หมัด เสียดายที่เนื้อชิ้นส่วนอื่นหมด หมด หมด ไม่งั้นคงจะได้ 5 ดาวไปแล้วสำหรับร้านนี้ - เสือร้องไห้ ราคา 169 บาท จานไม่ได้อลังเท่ากับ AKITA แต่ก็ถือว่าสวยเหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นแนวซูชิ สไลด์บาง ทานง่าย ย่างบนกระทะแบน สุกไวระดับนึงต้องคอยพลิกสักหน่อย ยังไม่ถึงขั้นละลายในปาก แต่ได้ความเคี้ยวนิดๆ ซึ่งก็เคี้ยวง่ายไปไหนไม่รู้เหมือนกัน จิ้มกับวาซาบิดองคือดีที่สุดแล้ว - ข้าวผัดกระเทียม ราคา 25 บาท ตอนแรกสั่งข้าวญี่ปุ่นไป แต่ก็หมดเหมือนกัน เลยเปลี่ยนเป็นข้าวผัดกระเทียมซึ่งใช้ข้าวสวย น่าจะผัดมาสักพักนึงแล้วเพราะไม่ร้อนเลย รสชาติแบบแห้งๆ เหมือนผัดแบบกระทะจีน ขาดความฉ่ำนิดๆ กินแล้วต้องกินน้ำตาม ทานกับเนื้อเข้ากันได้ดี แต่ยังไม่เท่ากับข้าวญี่ปุ่น ยังดีที่ร้านมีเสิร์ฟผักดอง กับเห็ดมาให้ฟรีๆ เพราะตอนแรกสั่งผัก ผักก็หมดเหมือนกัน โดยเห็ดจะดีตรงที่ใช้ซับน้ำมันที่ออกมาจากเนื้อได้เยอะ และทานก็จะออกกรอบๆ หน่อย - ซุปมิโซะ ราคา 39 บาท รสชาติค่อนข้างเค็มถึงเค็มเลเวลฟอกไต อาจจะเป็นเพราะว่าขายมาทั้งวันแล้ว มาตอนปิดร้านได้ก้นหม้อหน่อยๆ อาจจะขอเติมน้ำร้อนเพิ่มได้แหละแต่เราไม่ได้ขอเอง มีเครื่องค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะสาหร่ายและเต้าหู้ ช่วยให้ชุ่มคอได้ดีจากการทานเนื้อ ส่วนของเครื่องดื่ม ขวดละ 45 บาท ทางร้านใช้ของชิซุโอกะ มีทั้งแบบหวานและไม่หวาน อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ ส่วนตัวชอบแบบไม่หวาน หรือขวดเหลืองนั่นเอง ส่วนที่ชอบของร้านนี้เลยคือการบริการ พนักงานดูกระตือรือร้นมากๆ ต้องการอะไร เติมน้ำ ทำให้หมด รวมทั้งเช็ดกระทะที่มีรอยไหม้ให้ตลอดเวลา สมกับการเก็บ 10% แหละ หวังว่าเงิน 10% นี้จะตกถึงมือพนักงานไม่ใช่เข้าร้าน ในเรื่องอาหาร ถ้าเป็นเนื้อไม่มีข้อติ สมราคาและความอร่อย แต่ถ้าเป็นเรื่องการเก็บเงิน สำหรับเรตราคาและความเป็นร้านพรีเมี่ยม นี้ยังรับแต่เงินโอนอย่างเดียวก็ถือว่าดูจะลดต้นทุนเยอะไปสักนิด ซึ่งอนาคตคิดว่าคงจะมีเครื่องรูด Credit Card เพิ่มเติมมาอีกที และร้านนี้ยังคิด VAT อีก 7% ต่างหากด้วยนะ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
คัตสึยะ (Katsuya) ร้านหมูทอดสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำหรับ เปิดในประเทศญี่ปุ่น จนมีสาขาอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วกว่า 300 สาขา มาเปิดขายที่เมืองไทยอีกหลายสาขาโดยบริษัทในเครือเซนทรัล เมนูหลักของร้านจะเป็นทงคัตสึ หรือหมูทอดชุบเกล็ดขนมปัง อร่อยมาก มีน้ำราดแบบ 2 แบบคือราดทงคัตสึกับที่ผสมส้มยูสุสดชื่นดี ส่วนตัวชอบความที่รสชาติเหมือนต้นตำหรับ
" กินกันตั้งแต่คอเรียนทาวน์เปิดใหม่ทุกวันนี้ก็ยังอร่อยอยู่เหมือนเดิม" Doo Rae ร้านอาหารเกาหลีเจ้าเก่าแก่แห่งย่าน korean town ที่ปากซอยสุขุมวิท12 ร้านนี้เป็นร้านประจำที่มากินบ่อยมากที่สุด เวลามาหาร้านเกาหลีกินในคอเรียนทาวน์ สิ่งที่ประทับใจที่สุดก็คือรสชาติของเครื่องเคียงของร้านนี้ กิมจิ ไชเท้าดอง สลัดมันฝรั่ง ปลาตัวเล็ก ของหมักดองเครื่งเคียงรสชาติอร่อยที่สำคัญหมดแล้วเติมได้ไม่อั้น แต่ที่เติมกันเยอะที่สุดก็คือสลัดที่ไม่เหมือนกับร้านไหนที่หอมน้ำมันงารสออกเปรี้ยวนิดๆมีสี่ห้าจานทุกครั้ง พนักงานบริการอย่างดีเยี่ยมมาคอยย่างอาหารให้และเปลี่ยนเตาบ่อยครั้ง คิดอะไรไม่ออกสั่งชุดเนื้อรวมมากับหมูและซุปกิมจิรสชาติเข้มขัน เนื้อจิ้มกับเต้าเจี้ยวห่อด้วยผักก็อร่อย น้ำจิ้มทั้งหลายของร้านนี้รสเหมือนแบบต้นตำหรับที่เกาหลีกันเลย ข้างฝาร้านมีคนดังมากมายแวะเวียนมาทานกันเยอะมาก ไป korean town เลือกร้านไม่ถูกมาร้านนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน