โอมากาเสะปลาไทยในบ้านเชฟ ที่ปรับปรุงบ้านมาเป็นร้านอาหารแบบโฮมมี่ เมนูจะปรับเปลี่ยนเมนูไปตามปลาที่ช่วงนั้นจับมาได้ มีทั้งหมด 9 เมนู เป็นร้านที่เปิดต่อมความอร่อยของปลากะพงทอง และเมนูที่ว้าวมากคือ Linguine with truffle and fish อร่อยจนซอสหยดสุดท้าย เป็นอีกร้านที่จะพาครอบครัวมาอีกแน่ๆ ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ ที่จอดรถเนื่องจากร้านคือบ้านในหมู่บ้าน ถามเชฟตอนจองเรื่องที่จอดรถก่อนดีกว่า และร้านนี้รับแต่จองเท่านั้นนะ ปล. ชาคั่วร้อนร้านนี้กินคู่กับอาหารคือดีมาก
🍣 Omakase Thai fish First time with the omakase home made that we can eat the fresh Thai fish, the chef is so friendly to explain the kind of each menu which can made the customer interest in the story and impress the way he cook for us 🥳 today there are 9 course which all delicious 😌 The Dailyfish located in the private cutie home 🏡
ส่วนตัวได้มีโอกาสทานร้านนี้ครั้งนึงแล้วแต่ยังไม่ได้รีวิว รอบนี้มีโอกาสมาอีกรอบ โดยทางร้านได้เปลี่ยนสถานที่จากเดิมที่อยู่ใต้โรงแรม มาเป็นที่บ้านเชฟเอง การเดินทางมาร้านค่อนข้างสะดวกเพราะอยู่ในโซนบางแสนใกล้ๆกับ ม.บูรพา และมีที่จอดรถทั้งในบ้านเชฟ และด้านนอก โดยการมาร้านนี้ควราจองล่วงหน้าโดยสอบถามผ่านทาง FB ของทางร้านก่อน เพื่อจองรอบ โดยจะเปิดให้บริการแค่ 2 วันช่วงเสาร์อาทิตย์ มี 3 รอบ แล้วแต่เราสะดวก สำหรับบรรยากาศร้าน ด้วยความที่นำบ้านมาทำเป็นร้านอาหาร เลยจะมีความ Homie หน่อยๆ มีเคาเตอร์หลักที่ทำอาหาร และเคาเตอร์เครื่องดื่ม ส่วนโต๊ะก็จะจัดตามจำนวนแขก มากัน 2 คนก็จะเป็นโต๊ะเดี่ยว หลายคนก็ต่อโต๊ะ ราคาสุทธิต่อท่านอยู่ที่ 799 บาท ไม่รวมเครื่องดื่ม โดยมีทั้งหมด 9 คอร์สด้วยกัน วัตถุดิบรอบนี้ ทางเชฟหามาจากฝั่งแสมสาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลาที่ไม่ได้เป็นที่นิยมของกลุ่มประมง ยกเว้นในคนตกปลา ใครทานดิบไม่ได้ แจ้งให้ทางเชฟเบิร์นได้ทุกเมนู แต่ก็จะแลกกับรสชาติที่ไม่ได้ชัดเจนเหมือนกับแบบดิบๆ เมนูอาหารรอบนี้ก็จะมี - ปลาหมึกเส้นในซอสพอนสึ ตัวปลาหมึกจะสไลด์เป็นเส้นคล้ายเส้นราเมน เสิร์ฟคู่กับส้มโอและซอสพอนสึที่ทำเอง กลิ่นเปรี้ยวของพอนสึตีจมูกชัดเจนมากๆ ให้ความเฟรชๆ เปิดต่อมรับรสได้ดี รวมทั้งปลาหมึกสดมากๆ เนื้อออกหนึบๆ ฟินกำลังดี - ซาซิมิ 3 อย่าง ประกอบไปด้วย ปลาสีขนฝุ่น ปลาช่อนทะเล และปลาสากเหลือง เสิร์ฟคู่กับโชยุที่หมักเองมา 3 ปี มีขิงดองและวาซาบิ สีขนฝุ่นหรือกระมง จะออกลีนๆ และเบาที่สุดใน 3 ตัวนี้ มีความหนึบเบาๆ ต่อด้วยสากเหลือง รสชาติเข้มข้นและชัดเจนกว่าตัวอื่นๆ ส่วนตัวชอบตัวนี้ และปลาช่อนทะเล เนื้อจะออกแข็งๆ รสชาติไม่ชัดเท่ากับ 2 ตัวก่อนหน้า ทำออกมาได้ดีไม่มีกลิ่นคาวเลย - ซูชิปลาหมึก เปลี่ยนจากเสิร์ฟแบบเส้นๆ มาเป็นคำๆ เนื้อปลาหมึกออกเนียนๆ หนึบนุ่มกำลังดีไม่คาวแต่อย่างใดๆ มีใส่มะนาว โชยุ และอื่นๆ อีกหลายอย่างเพื่อให้รสชาติปลาหมึกชัดเจนยิ่งขึ้น ข้าวออกเปรี้ยวๆ เรียกน้ำลายได้ดีและไม่เละ ถ้าให้ดีเติมวาซาบิอีกหน่อยน่าจะฟิน - อิกะชาวามูชิ เราทานเนื้อปลาหมึกส่วนกระดองกันไปเยอะแล้ว แล้วส่วนของหนวดก็จะมาโผล่อยู่ในจานนี้แทน เสิร์ฟแบบไข่ตุ๋นญี่ปุ่น มีความเค็มๆ หอมๆของโชยูตัวเดียวกับที่ใช้จิ้มซาชิมิ เนื้อเนียนมากไม่มีฟองเลย ตอนแรกนึกว่าเต้าหู้ไข่ด้วยซ้ำ ที่เคยทานจะเสิร์ฟเป็นกุ้ง ส่วนตัวชอบแบบนี้ที่เสิร์ฟกับหนวดปลาหมึกมากกว่า - ซูชิปลาโฉมงาม เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้านเลยก็ว่าได้ เพราะมาทีไรก็ได้กินทุกที เป็นปลาที่กินเบ็ดง่ายกว่าตัวอื่นๆ เนื้อมีความเด้งๆ ฉ่ำๆ ไม่แข็งกระด้าง เหมาะกับกินดิบและสุกถ้าจัดการปลาดี คำนี้จะต่างกับอิกะตรงที่ได้เนื้อที่ชัดเจนกว่า รสชาติดี ข้าวช่วยชูวัตถุดิบได้ชัดเจนยิ่งขึ้น - ซุปปลาโฉมงาม น้ำสต๊อกเป็นการนำกระดูกปลาที่มีมาเคี่ยวและกรองจนใส มีใส่ผงปลาโอนิดหน่อยเพื่อให้รสชาติอูมามิออกชัดยิ่งขึ้น ซุปจะออกหวานเจี๊ยบเหมือนใส่น้ำตาล แต่จริงๆ คือไม่ได้ใส่เลย ธรรมชาติให้มาล้วนๆ เสิร์ฟคู่กับเนื้อปลาโฉมงาม ที่ทานแบบลวกก็อร่อยเช่นกัน มีมะเขือเทศและต้นหอมใส่มาเพื่อตัดรสชาติสักหน่อย - ซูชิปลาอังเกย หรือปลากะพงทอง รอบที่แล้วได้ทานเป็นเนื้อกั้งที่ออกนุ่มๆ ลีนๆ รอบนี้เป็นปลาที่ตกไม่ได้ง่ายๆ สักเท่าไร และไม่ใช่ปลาเศรษฐกิจด้วยซ้ำ ตกตัวเล็กก็เนื้อไม่อร่อย ต้องไซส์ใหญ่ประมาณแขนถึงจะดี เสิร์ฟแบบเบิร์น ทาด้วยโชยุ และแต้มด้วยวาซาบิดอง เป็นจานปิดเมนูซูชิของวันนี้ได้ดี รสชาติเข้มข้น หนังนุ่มมีความหอม - เฟตูชินี่ทรัฟเฟิลครีมซอส จานหลักปิดท้ายมื้ออาหารในวันนี้ น้ำสต๊อกแบบเดียวกับที่ทานในซุป เพิ่มเติมด้วยครีม และทรัฟเฟิล กลิ่นหอม มีความหวานแบบธรรมชาติ เส้นหนึบกำลังดี เข้ากันกับซุปมากๆ เป็นซุปที่ไม่สามารถทานเปล่าๆ ได้เพราะรสชาติค่อนข้างหนักพอสมควร - อินทนิล หน้าตาอาจจะไม่ได้ดูเขียวเหมือนกับที่เคยทาน เพราะทางร้านใช้สีธรรมชาติ 100% น้ำกะทิเข้มข้นออกหอมมันไม่หวานจนเกินไป ขนุนทานกับอินทนิลที่ให้ Texture ออกนุ่มๆ เคี้ยวนิดเดียวก็ขาดแล้ว อร่อยนะ แต่รู้สึกว่าจะหนักไปนิดหลังจากที่ทานจานหลักมา ในเรื่องของการบาลานซ์อาหาร รสชาติ ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก วัตถุดิบจับเองทั้งหมด การันตีความสด สะอาด แบบไม่ต้องกลัวว่าทานแล้วจะเป็นอะไร ใครที่เป็นสายปลาไทย มาร้านนี้น่าจะต้องประทับใจและรู้สึกเหมือนกันว่า ยกระดับขึ้นมาได้ดีเลย ถึงแม้เทคนิคจะใช้ของเจ้าตำรับญี่ปุ่นเองก็ตาม แต่ถ้าใครหวังว่าจะได้รสชาติที่มีมิติ เข้มข้น ปลาที่หลากหลายมากเหมือนกับร้านโอมากาเสะ ร้านนี้อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เพราะปลากลุ่มนั้นเป็นกลุ่มน้ำลึกทั้งหมด ในราคานี้ทำออกมาได้ขนาดนี้ถือว่าคุ้มแล้วสำหรับ 1 มื้อ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ #BETour
Dailyfish 🐟 Omakase ปลาไทย ร้านอยู่บางแสน ร้านนี้เพื่อนที่เคยมาชวนมารอบนึงแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้มาลอง จองไม่ยาก แต่เขาจะรับแค่ไม่กี่วัน วันละ 2 รอบ ต้องลองสอบถามทางเพจ fb ร้าน เชฟบอกว่า เชฟเป็นคนไปตกปลามาเอง จัดการกับเนื้อปลาเอง และก็เอามาทำอาหารเอง มั่นใจในคุณภาพได้เลย เชฟคัดสรรเองกับมือ มีทั้งหมด 9 คอร์ส รวมของหวานแล้ว - หมึก และส้มโอในพอนสึที่ทางร้านหมักเองกว่า 8 เดือน เริ่มต้นได้สดชื่นมาก - ซาชิมิปลาน้ำดอกไม้ ปลากระจี๊ และปลาเต็กเล้ง (เราไม่รู้จักสักชื่อเลย) ปลาในทะเลไทยนี่ก็อร่อยเหมือนกันนะ เนื้อแน่น หนึบ สด หวาน ไม่คาว เราชอบเต็กเล้งมาก เชฟบอกว่าปลาชนิดนี้ปกติชาวประมงจะปล่อยไป เพราะมันจะคาวมาก แต่เชฟมีวิธีจัดการไม่ให้คาว ซึ่งที่เรากินก็ไม่มีกลิ่นคาวเลย มันว้าวมาก - ซูชิปลาน้ำดอกไม้ ข้าวรสชาติดีเลย เนื้อปลาก็หวาน อร่อย - ไข่ตุ๋นเนื้อปู ไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่น ราดด้วยซอสน้ำแดงเนื้อปู เข้ากันจนอยากกินอีก - ซูชิปลาโฉมงาม เป็นปลาไทยอีกชนิดที่เราก็ไม่เคยลอง เนื้อหนึบดี - ซุปปลา ทำมากจากกระดูของปลาโฉมงาม มีกลิ่นเบซิลและน้ำมันงาชัดเจน ราดบนเนื้อปลาน้ำดอกไม้ที่เซียสุกมาครึ่งนึง และจะสุดต่อในน้ำซุปร้อนๆ น้ำซุปไม่ได้ปรุงอะไรเลย ความหวานมาจากปลาล้วนๆ เนื้อปลาสุกกำลังดี สดชื่นมาก - ซูชิหมึก หมึกที่ตกมาไม่ได้โดนน้ำจืดเลย เนื้อจะบาง ใส พอส่องไฟจะเห็นวาซาบิด้านในเลย เชฟบอกว่านี่คือเนื้อหมึกที่แท้จริง - พาสต้าทรัฟเฟิล เป็นเมนคอร์สที่สมศักดิ์ศรีมาก ตอนแรกยังรู้สึกไม่อิ่ม แต่พอเจอเมนคอร์สไป อิ่มเลย พาสต้าเส้นลวกมาดีมาก แต่ที่เด็ดคือครีมซอสทรัฟเฟิลนี่แหละ เชฟใช้น้ำซุปจากจานก่อน มารีดิวให้เข้มข้นขึ้น ผสมครีมและทรัฟเฟิลเพสท์ กลิ่นทรัฟเฟอลอบอวนแบบสะใจ ท็อปมาด้วยทรัฟเฟิลเพสท์จุกๆ และชีส เรานิยมจานร้ว่าเป็นพาสต้าครีมซอสแบบเช็งๆ มันไม่เลี่ยนเลย และมันอร่อยมากกก - Creme Brulee ตบท้ายด้วยของหวานสไตล์ฝรั่งเศส เนื้อนเนีบน หวานน้อย ปิดท้ายได้ฟินาเล่มาก สำหรับเรา อาหารอาจจะไม่ได้อลังการ มาก แต่ทั้งหมดนี้ในราคา 699 บาท กับสิ่งที่เราได้รับ ททั้งบรรยากาศ รสชาติ ความรู้ต่างๆจากเชฟ เราถือว่าคุ้มมากๆ ประทับใจมากๆ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปทานอีก เชฟบอกว่า สามารถรีเควสเมนูอื่นก็ได้ ถ้าไม่อยากทานซ้ำ เชฟน่ารักมากๆเลย #Rettyjun22