มื้อเย็น

พรุ (Pru) ร้านอาหารที่มีเรื่องราวเป็นมากกว่าอาหารคู่ควรกับรางวัล Michelin Star อย่างยิ่ง เป็นร้านอาหารในโรงแรมตรีสรา จ.ภูเก็ต ครับ บรรยากาศ และการบริการดีมากๆ ได้มาตรฐาน รร. ระดับนี้ ช่วงเย็นจะเห็นวิวพระอาทิตย์ตกของหาดในทอนโรแมนติกมากครับ ร้านอาหารจัดเป็น innovative restaurant มีเอกลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของ chef ได้เป็นอย่างดี วัตถุดิบเป็นแนว organic and farm to table ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่ รร. ปลูกเอง เช่น ผักต่างๆ ไข่เป็ด เป็นต้น หรือนำเข้าจากจังหวัดต่างๆ ของไทย เช่น เห็ดชิตาเกะ, เห็ดแชมปิญอง, หมูคุโรบุตะ, เป็นที่เลี้ยงแบบปล่อยธรรมขาติ ขอเรียกว่า happy duck, หรือแม้แต่ Cheese ก็เป็นของ เชียงใหม่ และเชียงรายครับ อาหารเป็นรูปแบบ fine dining มี 3 ราคา + wine paring ต่างหาก เมนูจะเปลี่ยนทุกประมาณ 4 เดือน ครับ 1. 6 courses signature 4500++ and wine paring 2500++ 2. 8 courses seasonal inspired 5500++ ad wine paring 3500++ 3. 6 courses vegetarian 3500++ and wine paring 2500++ วันนี้เราได้ลอง 6 course signature คับ (แต่จะมีจานแถมคือ ขนมปัง Sour dough with butter, appetizer, cheese, pre dessert และ Petit 4) อย่างที่ได้กล่าวไปตอนต้นครับ ทุกเมนูของร้านจะมี story ที่มาที่ไป และเหตุผลว่าทำไม chef ถึงเลือกทำเมนูนี้ รวมถึงมีการอธิบายถึงแหล่งวัตถุดิบ และวิธีการปรุง ซึ่งแสดงถึงความภาคภูมิใจในตัวเองของ chef โดยการบอกผ่านมาทางมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี 1. Sour dough with butter และ น้ำมันใบโหระพา เป็น ขนมปังที่อร่อยกรอบมาก เนื้อด้านในนุ่ม ส่วนเนยทำจากนมวัวจาก จ. กระบี่ สีดำที่โรยคือ มะแขว่น สีขาวที่โรยคือเกลือจาก จ. น่าน 2. Appetizer 1 คือ มะเขือเทศ นำไปทำอะไรไม่รู้ มี 3 แบบ อันบนคือมะเขือเทศฝานบางกรอบ ด้านล่างเหมือนเป็นน้ำแข็งใสมะเขือเทศ 3. Appetizer 2 คือ วัตถุดิบหลัก คือYoung green bean นำมาทำอะไรไม่รู้ครับ ลืมแล้ว 4. Course 1 ; Black crab and Phuket coffee คือ ปูดำจากจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ นำส่วนก้ามมาผัด ปิดด้วยยอดมะพร้าวอ่อน ส่วน topping ก็มีเรื่องราว แต่จำไม่ได้ครับ สำหรับ sauce ก็ทำจากส่วนอื่นๆของปูครับ 5. Course 2 ; Burned leek and house cured kurobuta ham คือ ต้นหอมญี่ปุ่นย่างห่อด้วยแฮมหมูคุโรบูตะจาก จ. หนึ่งทางภาคเหนือ เคียงด้วย เห็นแบมปิญองสดหั่นบาง และครีมซอสเห็ดแชมปิญอง ส่วนผงดำๆ คือ ส่วนของเปลือกต้นหอมที่ย่างจนไหม้ครับ ที่เปนจุดๆ คือ jelly ต้นหอม เรียงสลับกับเห็ดครับ 6. Course 3 ; Pickle duck egg and Phuket abalone เป็นไข่เป็ดดองเค็มที่ไม่เค็มเลยดองนาน 3 weeks แล้วนำไปซูวีครับ มี หอยเป๋าฮื้อภูเก็ตและ มะเขือม่วงบดด้านล่าง และน้ำซุปดาชิ ที่ทำจากหอยเป๋าฮื้อครับ 7. Course 4 ; carrot cooked in soil it came from คือ แครอทที่นำไปห่อใบตองแล้วทำให้สุกด้วยการอบในหม้อดินนาน 6 ชั่วโมง ด้านล่างคือ hollandaise sauce ที่ทำจาก carrot เช่นกัน จานนี้ คือ signature dish ของ chef ครับ 8. Course 5 ; Aged duck and shiitake จานนี้คือ happy duck ทีนำเนื้อเป็ดไปหมักสมุนไพร 2 วัน และหมัก น้ำผึ้ง 2 วัน จากนั้นนำไปย่าง ทานคู่กับ มะเขือม่วงและเห็ดชิตาเกะ 9. Cheese dish เป็น surprise dish เป็น cheese จากเชียงใหม่ 5 ชนิด และ เชียงราย 3 ชนิด ทุกชนิด มีที่มาถึงแหล่งผลิต และกรรมวิธีการหมักครับ ทางร้านในให้เลือก 3 ชนิด ทานคู่กับ ขนมปัง แยมองุ่น และแยมแอปเปิล 10. Pre dessert วัตถุดิบหลักทำจากคื่นช่ายครับที่มีสีเขียว ส่วนสีขาวคือไอติมรสมนุนไพรครับ 11. Course 6 ; organic beetroot and sour dough คือ บอกตรงๆว่าสีชมพูไม่รู้คืออะไรครับ แต่ทำจาก beetroot ส่วนไอศกรีมคือรสที่ทำจากขนมปัง sour dough ด้านบนครับ 12. Petit 4 จำได้แต่วัตถุดิบหลักนะครับ คือ ขนมไข่ almond (ถ้าจำไม่ไม่ผิด), มูสจำปาดะ, กล้วยนำมาทำอะไรซักอย่าง และ dark choc จาก จันทบุรี โดยรวม อร่อยมาก วัตถุดิบดีมาก คุ้มค่า ไม่รู้สึกเสียเวลาถ้ามาภูเก็ตแล้วตั้งใจมากินครับ

  • 19
  • 3
19/01/19