จุดเริ่มแรกของการแวะมาร้านนี้ มาจากความอยากล้วนๆ เพราะเราอยากหาร้านขนมไทยบรรยากาศดีๆ ที่เดินทางมาทานได้ไม่ลำบากมาก และมีขายทั้งเมนู “ขนมโค” และ “ขนมพระพาย” โดยที่ก่อนมา เราก็ไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับร้านนี้มากมาย แม้แต่ตำแหน่งที่ตั้งร้าน ก็ไม่คิดว่าจะหาทางเข้าร้านยากขนาดนี้ 📌 ตัวร้านถ้าขับมาตาม google map รับรองว่าเกินกว่า 70% น่าจะหลงแน่นอนถ้าไม่ใช่คนย่านนี้ อย่างเราเองก็ขับตาม map จนไปเจอกับทางตันถึงกับไปต่อไม่ถูก วนอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่ละทิ้งความตั้งใจเดิม “อยากกินต้องได้กิน” ก็เลยโทรหาร้านถามเส้นทางอีกครั้ง ใครที่ขับรถมา ให้ยึดถนนเส้นที่อยู่ด้านล่างของทางด่วนเป็นหลัก โดยให้สังเกตุตำแหน่งของธงสีเหลือง แล้วค่อยเลี้ยวลอดใต้ทางด่วนเข้ามาที่ตัวร้าน 🚘 ที่จอดรถมีบริการ จอดได้ประมาณ 5 คัน ถ้าเต็มก็สามารถจอดแอบๆ ริมข้างทางแถวนั้นได้ สำหรับใครที่เดินทางด้วย BTS ทางร้านมีรถ shuttle รับส่ง (รถตุ๊กๆ) ส่วนสถานีที่รถรอจอดรับและเวลา ควรโทรเช็คตรงกับทางร้าน น่าจะดีสุด ที่นั่งในร้านมีทั้งด้านในห้องแอร์และด้านนอก (สำหรับลูกค้าที่สูบบุหรี่) แยกสัดส่วนกันชัดเจน ส่วนการตกแต่งร้านก็จัดออกมาได้สวยงามทั้ง 2 ส่วน ขนมไทยของร้านนี้แต่เดิมไม่ได้มีหน้าร้านแต่อย่างใด โดยจะทำส่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งลูกค้าของร้านแต่ละเจ้าก็ Profile ไม่ธรรมดา หลักๆ ก็จะเป็นโรงแรม 5 ดาวชื่อดังทั้งหลาย (รวมถึง Mandarin Oriental, St.Regis, และโรงแรมชั้นนำอื่นๆ ในเมืองไทย) โดยขนมที่ขายจะทำขายในชื่อของโรงงานขนมไทย “หยิบกะหยอด” ส่วนคาเฟ่แห่งนี้ แม้ว่าพึ่งเปิดตัวมาได้ไม่กี่เดือน แต่ก็ได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดี แรกสุดเราตั้งใจแวะมาทานแค่ขนมไทยและเครื่องดื่ม แต่หลังจากได้ดูรูปในเมนู คิดว่าคงจะต้องชวนเพื่อนมาร้านนี้อีกครั้งแน่นอนเร็วๆ นี้ เพื่อมาทานเมนูอาหารคาวและของว่าง เพราะมีหลายเมนูที่ดูน่าสนใจมากๆ ส่วนเมนูขนมที่ตั้งใจแวะมาทานในครั้งนี้ ถูกใจทุกรายการที่สั่งมาจริงๆ โดยเฉพาะการจัดจานที่สวย งดงาม และมีดีเทล ที่สำคัญราคาก็ไม่ได้ตั้งไว้สูงจนเกินไป สำหรับเมนูที่สั่งมาทานตามด้านล่างเลยค่ะ: 1. ขนมโค (95 B.): เสริฟมาในโถแก้ว มีจำนวน 5 ลูก แต่ละลูก ขนาดใหญ่พอสมควร ตัวไส้ด้านในจะทำมาจากเนื้อมะพร้าวอ่อนนำไปผัดกับน้ำตาลโตนด ตัวแป้งด้านนอกปั้นมาได้เหนียวนุ่ม ไส้ด้านในก็อร่อย ที่ชอบคือ น้ำกะทิที่ไม่ข้นมากและปรุงรสออกมาแบบหวานน้อยถูกใจคนไม่ชอบทานขนมหวานจัดๆ 2. ขนมพระพายเผือก (35 B.): ตามสูตรทั่วไป ขนมพระพายจะใช้ไส้ด้านในเป็นถั่วเหลือง แต่ทางร้านนี้ได้คิดค้นสูตรขึ้นมาใหม่ เอาใจคนชอบทานเผือกโดยเฉพาะ ถูกใจเราเป็นที่สุดเพราะเห็นอะไรที่ทำมาจากเผือก มักจะอดไม่ได้ต้องสั่งมาทาน ขนมนี้จะเสริฟมาแบบเสียบไม้ 🍡 ดูเก๋มากๆ แถมรสชาติก็ดีอีก เพราะเนื้อเผือกกวนมันๆ เข้ากันดีกับแป้งหนุบหนับด้านนอก หวานไม่มากด้วย อร่อยอีกเช่นกัน 3. ตะโก้ลำไย (11 B./ชิ้น): ชอบพรีเซนเทชั่นของขนมชิ้นนี้มาก สวยงาม แถมมีทองคำเปลวแปะมาด้านบน เพิ่มความหรูหรา ที่สำคัญ รสชาติก็ดีด้วย 4. Arom Coffee (95 B.): เมนูนี้เป็นหนึ่งใน signature drink ของทางร้านที่ทางพนักงานแนะนำให้เรา ซึ่งทำออกมาได้ดีเช่นกัน เป็นเครื่องดื่มที่สวยทั้งรูปและรสชาติมาครบ แต่แนะนำว่าหลังจากถ่ายรูปเสร็จ อย่าลืมคนให้เข้ากันก่อนทาน ไม่เช่นนั้นรสจะออกมาหวานนำไปหน่อย ด้านล่างมีเยลลี่ใส่มาด้วย เคี้ยวหนุบหนับ เพลินๆ ดี ทางด้านการบริการ 🤵 ต้องขอชมว่าพนักงานมีความรู้ แนะนำอาหารได้ดีและสามารถบอกทางแบบที่เราขับตามแล้วมาถึงร้านโดยปลอดภัย เยี่ยมยอดมาก ร้านนี้เป็นคาเฟ่ที่ขายขนมหวานไทยๆ ที่เราค่อนข้างประทับใจ แบบที่อยากกลับมาลองเมนูอื่นๆ ของร้านทั้งอาหารคาวและของหวานอีกหลายเมนู ถึงแม้ว่าเมนูขนมที่สั่งมาทานในครั้งนี้ จะเป็นการทานเมนูนี้ในครั้งแรกก็ตาม เลยยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับร้านขายขนมไทยอื่นๆ แต่โดยรวมชอบเลยนะคะ *ราคาค่าอาหารยังไม่รวม vat 7% แต่ไม่มีค่าบริการ