มื้อกลางวัน

ร้านอาหารที่อยู่สูงที่สุดในกรุงเทพ ณ ปัจจุบันนี้คงต้องยกให้ร้านนี้เลยครับ สามารถขับรถมาจอดที่ตึกได้เลย หรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีช่องนนทรี และเดินเข้าไปตาม Sky Walk เลยครับ เมื่อเข้าไปจะมีพนักงานมารอต้อนรับเลยครับ หากต้องการขึ้นไปบนดาดฟ้าเพียงอย่างเดียว พนักงานจะพาไปส่งถึงชั้น 74 และขึ้นลิฟต์แก้วไปชั้นบนสุดได้เลยครับ แต่ถ้าหากมาทานอาหารที่นี่ พนักงานจะพามาส่งที่ชั้น 76 และที่ห้องอาหารจะมีพนักงานมารอต้อนรับตั้งแต่ออกจากลิฟต์กันเลยทีเดียว สำหรับใครก็ตามที่มาทานอาหารที่ห้องอาหารนี้ สามารถขึ้นไปชมดาดฟ้าได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแล้วครับ โดยวันนี้ขึ้นมาทานในช่วงกลางวันซึ่งคนจะน้อย โดยเลือกได้ว่าจะทานเป็น A La Carte หรือทานเป็น Course โดยวันนี้ทานเป็น Course มีเมนูเป็น Course 3 จานในราคา 990++ ประกอบด้วย Appetizer, Main Dish และ Dessert ครับ เริ่มต้นกันด้วย Appetizer จานแรกอย่าง Grain Salad เป็นสลัดสไตล์ธัญพืชสำหรับคนทานคลีน พร้อมกับน้ำสลัดเคลเพสโตผสมกับกรีกโยเกิร์ต รสชาติออกละมุนๆ ไม่เลี่ยน ธัญพืชที่ใส่มามีหลากหลายชนิด โดยจะเน้นไปทางกรุบกรอบ ทำให้จานนี้ดูมีมิติครับ ส่วนอีกเมนูที่ได้ชิมเป็นยำเนื้อย่างออสเตรเลีย ที่ปรุงรสชาติออกมาเหมือนลาบแบบไทยๆ แต่มีการแยกส่วนระหว่างเนื้อกับผัก โดยตัวผักจะปรุงให้ออกเปรี้ยวและเผ็ดจัดจ้าน เพิ่มมิติในจานและล้างปากก่อนที่จะไปเมนูถัดไป มาถึง Main Dish ซึ่งได้ลองทั้ง 2 แบบเช่นเดียวกัน โดยจะมี Seared Red Snapper หรือปลากระพงแดงที่ผ่านการอบด้วยเตาถ่านมีกลิ่นสโมคนิดๆ มาพร้อมกับซอสวิซไคย่าที่ให้รสชาติเผ็ดๆ แบบปาปริก้า และสลัดสมุนไพรเพื่อตัดเลี่ยน พร้อมกับข้าวสวยที่เป็นข้าวขัดสี รสชาติจะออกคลีนๆ อ่อนๆ เหมาะกับสายเฮลตี้มากๆ ส่วนอีกเมนูเป็นพาสต้าแก้มวัวตุ๋น ด้านบนโรยด้วยพาร์เมซานชีสแบบท่วมๆ ตัวเส้นเสียดายไม่ใช่เส้นสดแต่ทำออกมาได้อร่อย ตัวซอสเข้มข้นและแก้มวัวเสิร์ฟแบบฉีกเป็นขุยๆ ทำให้ทานง่าย แต่ส่วนตัวชอบให้เสิร์ฟมาเป็นชิ้นใหญ่ๆ เลยจะดีกว่า ปิดท้ายด้วย Dessert ซึ่งมี 2 เมนูเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย Apple Tatin เสิร์ฟมาพร้อมกับวานิลลาครีมที่รสชาติดีมากๆ ตัวแอปเปิ้ลจะออกเปรี้ยวๆ เพื่อตัดรสชาติ อันนี้เหมาะกับคนทานคลีนเป็นอย่างยิ่ง ส่วนอีกเมนูจะหวานไปเลยกับ Chocolate Tart โดยด้านบนจะโรยเกลือเพื่อให้ได้รสชาติที่ครบเครื่อง ทั้งขม มัน หวาน และเค็ม แต่ถ้ารู้สึกเข้มเกินไป ก็ยังมีครีมวานิลลาให้ลดทอนความเข้มข้นลงได้อีกครับ นอกจากเมนูอาหารแล้ว วันนี้ก็ได้ลองเมนูเครื่องดื่ม 2 อย่าง ก็จะมี Passion Delight ราคา 290 บาท รสชาตินำเปรี้ยวจากตัวเสาวรส ตามด้วยหวาน และมีความขมๆ ซึ่งตอนแรกสงสัยว่ามาจากอะไร แต่ให้เดาคงมาจากตัวโซดาครับ เมนูนี้เหมาะกับทานคู่กับเมนูจานหลักในวันนี้เลยครับ ส่วนอีกเมนู เป็นชาร้อนที่เสิร์ฟเฉพาะที่นี่เท่านั้นกับ King’s Tea Blue ราคา 460 บาท มีกลิ่นหอมแบบเฉพาะตัว ส่วนรสชาติจะออกขมนิดๆ เป็นเมนูชาตัวแรกที่รู้สึกว่าใส่น้ำตาลก้อนจะอร่อยขึ้นเหมือนตัวชาผ่านการอบน้ำผึ้ง และพอเติมน้ำตาลเข้าไปทำให้กลิ่นน้ำผึ้งและรสชาติชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ ในส่วนของ Roof Top ที่เราสามารถขึ้นไปได้นั้น เป็นโชคดีอย่างมากที่ช่วงกลางวันเป็นช่วงที่คนน้อย ทำให้การถ่ายรูปเป็นเรื่องง่าย โดยจะมีกฎอยู่คือต้องสวมถุงเท้าตลอดเวลาที่อยู่บนกระจก และไม่นำกล้องถ่ายรูปลงไปถ่ายที่ด้านล่าง รวมทั้งห้ามนำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปด้วยเช่นกัน และมีพนักงานดูแลอยู่ตลอดเวลา ปลอดภัยแน่นอนครับ โดยรวมแล้วรสชาติอาหารถือว่าดีครับ ราคาถือว่ากลางๆ ไม่ได้แพงมากเมื่อเทียบกับร้านที่อยู่ด้านล่าง ปริมาณเยอะใช้ได้เมื่อเทียบกับร้านแนวๆ นี้ รวมทั้งการบริการที่รวดเร็วและมีพนักงานคอย Support ตลอดเวลาครับ ถือได้ว่าเป็นร้านอาหารที่อร่อยร้านนึงเลยครับ 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และแจ้งความทุกกรณี #Happynov2021

  • 8
  • 3
21/11/22

Other Reviews

ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง