รู้หรือไม่? Blue Cheese ชีสขึ้นรากินได้ อร่อยด้วย!

03/07/2022
มีใครชอบกินชีสบ้าง ชีสเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนมวัว ที่คนประเทศแถบยุโรปกินกันทั่วไป เปรียบเหมือนกินข้าวในบ้านเรา หลายปีที่ผ่านนี้ชีสได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่วัยรุ่น ชีสถูกนำมาดัดแปลงให้เข้ากับอาหารหลายหลาก แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่า คนนิยมกินชีสขึ้นรากันด้วย ชีสชนิดนี้เรียกว่า บลูชีส (Blue Cheese) บลูชีสคืออะไร และบลูชีสมาจากไหน วันนี้มาไขข้อสงสัยไปพร้อมกับ Retty กันเลย
ตำนานเล่าขานว่า บลูชีสเกิดขึ้นจากความบังเอิญ เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ณ หมู่บ้านร็อคฟอร์ต ประเทศฝรั่งเศส มีเด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งลืมชีสไว้ในถ้ำ หลังจากไปกินเลี้ยงฉลองกัน หลายเดือนต่อมา เขานึกขึ้นได้จึงกลับไปเอาชีสในถ้ำ พบว่าชีสที่ลืมไว้มีเส้นสีฟ้าปนเขียวขึ้น จึงลองชิมดู ผลปรากฎว่า ชีสก้อนนั้นอร่อยกว่าชีสปกติ จึงเป็นต้นกำเกิดของ บลูชีส (Blue Cheese) ชนิดร็อคฟอร์ต (Roquefort) ขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีอีกตำนานหนึ่งเล่าว่ามีต้นกำเนิดมาจากถ้ำในประเทศออสเตรเลียเช่นกัน
โดยเอกลักษณ์เด่นของบลูชีส จะมีกลิ่นฉุนแรง รสชาติเค็ม มีลายเส้นสีฟ้าปนเขียว จึงเป็นที่มาของชื่อบลูชีสนั่นเอง ซึ่งบลูชีสแต่ละที่ก็จะมีรสชาติ กลิ่น สี และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับนมที่ใช้ และวิธีการผลิตของแต่ละท้องถิ่น ยิ่งไปกว่านั้นแต่ละประเทศก็มีชื่อเรียกบลูชีสแตกต่างกัน อย่างในประเทศฝรั่งเศส จะเรียกบลูชีสว่า ร็อคฟอร์ต (Roquefort) ประเทศอังกฤษ เรียกว่า สติลลัน (Stilton) และในประเทศอิตาลี เรียกชีสชนิดนี้ว่า กอร์กอนโซล่า (Gorgonzola)
นอกจากบลูชีสจะมีกลิ่นอันโดดเด่นแล้ว ยังช่วยบำรุงกระดูก เสริมสร้างฟันให้แข็งแรง เพราะมีแคลเซียมสูง มีโปรตีน มีวิตามินD วิตามินB12 ช่วยบำรุงระบบประสาท ทั้งยังมีฟอสฟอรัส สังกะสี และไขมัน ที่ให้พลังงาน สร้างความอบอุ่นให้ร่างกายได้อีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ ก็ได้รู้จักกับบลูชีสกันมากขึ้นแล้วใช่ไหม แท้จริงแล้วเชื้อราที่อยู่ในชีส เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ชีสชนิดนี้มีกลิ่นแรง แต่สามารถกินได้อย่างปลอดภัยน้า ทั้งยังมีรสชาติ เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม ละมุน ตรงกันข้ามกับกลิ่นของมันอย่างสิ้นเชิง
ขอบคุณข้อมูลจาก https://bit.ly/3Ou9pwM https://bit.ly/3yseDDG
บทความแนะนำ