รู้หรือไม่ 💡แอปเปิลไซเดอร์ 🧃 ดื่มแล้วดีต่อสุขภาพยังไง ⁉️

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนหันมาดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนักมากขึ้นเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะในปีนี้ที่แอปเปิลไซเดอร์หรือน้ำส้มสายชูแอปเปิล ได้รับความสนใจในวงการดูแลสุขภาพมากในเรื่องการควบคุมน้ำตาลในเลือดและช่วยลดความอยากอาหาร ซึ่งทำไมแอปเปิลไซเดอร์ถึงช่วยควบคุมน้ำตาลได้ และมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง วันนี้ BESTER EATS มีคำตอบ

แอปเปิลไซเดอร์ (Apple Cider) หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล เกิดจากการหมักน้ำผลไม้ของแอปเปิลด้วยยีสต์ ทำให้น้ำตาลในแอปเปิลกลายเป็นแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์จะถูกเปลี่ยนเป็นกรดอะซิติก (Acetic acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำส้มสายชู ทำให้แอปเปิลไซเดอร์มีรสเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นเฉพาะตัวที่อาจทำให้หลายคนไม่ค่อยชอบ

แอปเปิลไซเดอร์มีสรรพคุณที่ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ต้านการอักเสบ และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ และส่วนสำคัญคือกรดกรดอะซิติก (Acetic acid) ซึ่งช่วยกระตุ้นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอิ่มทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น อีกทั้งยังช่วยชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรตและเพิ่มการเผาผลาญทำให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยวิธีดื่มที่เหมาะสมคือผสมแอปเปิลไซเดอร์ 1-2 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 200-250 มล. ดื่มก่อนหรือหลังมื้ออาหาร และแนะนำให้ใช้หลอดเพื่อลดการสัมผัสกับฟัน เพราะแอปเปิลไซเดอร์มีความเป็นกรดที่อาจทำให้เคลือบฟันสึกกร่อนได้

แม้แอปเปิลไซเดอร์จะมีประโยชน์หลายด้าน เช่น การควบคุมน้ำตาลในเลือด การต้านการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยลดความอยากอาหารและอิ่มได้นานยิ่งขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวังคือควรดื่มไม่เกินวันละ 2 ครั้ง และหลังจากดื่มต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ ควรหยุดพัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลและลดการสะสมของกรดอะซิติก (Acetic acid) อีกทั้งผู้ที่มีโรคกระเพาะหรือโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มดื่ม

สรุปแล้ว แอปเปิลไซเดอร์คือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล รสเปรี้ยวอมหวานและมีประโยชน์มากมาย เช่น การควบคุมน้ำตาลในเลือด การต้านการอักเสบ และการต้านอนุมูลอิสระ โดยวิธีดื่มที่เหมาะสมคือผสมแอปเปิลไซเดอร์ 1-2 ช้อนโต๊ะกับน้ำแล้วดื่มก่อนหรือหลังมื้ออาหาร ใช้หลอดเพื่อถนอมฟัน และควรดื่มไม่เกินวันละ 2 ครั้ง อีกทั้งหยุดพักเป็นช่วง ๆ เพื่อปรับสมดุลร่างกายด้วยนั่นเอง

รู้หรือไม่ 💡แอปเปิลไซเดอร์ 🧃 ดื่มแล้วดีต่อสุขภาพยังไง ⁉️

เพิ่มเติม

ค้นพบร้านอาหารแนะนำ