รู้หรือไม่ 💡 ไหลบัว กับ สายบัว ไม่เหมือนกันนะ 🤔

เพื่อน ๆ เคยเป็นกันไหม ไปร้านอาหารอีสานแล้วสั่งส้มตำแซ่บ ๆ อย่างตำไหลบัวกุ้งสด ตำไหลบัวทะเล หรือเมนูตำไหลบัวอื่น ๆ แต่ร้านค้าดันเสิร์ฟสายบัวแทนซะงั้น ซึ่งบางทีด้วยความไม่รู้ก็ทำให้เราแยกไม่ออกว่าที่ร้านเสิร์ฟมานั้นเป็นไหลบัว หรือสายบัว หน้าตาก็คล้าย ๆ กัน จนหลายคนสับสนกันได้ แล้วผู้บริโภคอย่างเราจะแยกออกได้ยังไง วันนี้ BESTER EATS มีคำตอบ

‘ไหลบัว’ หรือ หลดบัว เป็นหน่ออ่อนของบัวที่กำลังจะเจริญเป็นต้นใหม่ จะเป็นหน่อที่ยังสูงไม่พ้นน้ำและใบยังม้วนตัวอยู่ วิธีสังเกตง่าย ๆ มีลักษณะสีขาวนวล แข็ง กดแล้วไม่ยุบไปตามมือ เพราะมีเส้นใยมาก ด้านรสชาติก็จะมีความหวานอ่อน ๆ แต่จะเด่นด้านความกรอบสดจากตัวไหลบัวเอง แตกต่างจาก ‘สายบัว’ ที่จะเป็นก้านของบัวที่โตจนพ้นน้ำแล้ว มีสีน้ำตาลปนแดง และก่อนจะทานสายบัวจะต้องปลอกเปลือกก่อนเท่านั้น วิธีสังเกตง่าย ๆ เมื่อกดแล้วจะรู้สึกว่านิ่มและยุบตามมือ เพราะมีเส้นใยน้อยนั่นเอง

แต่ทั้งไหลบัวและสายบัวก็สามารถนำไปประกอบอาหารอร่อยมากมาย อย่าง ‘ไหลบัว’ นิยมทานแบบสด เช่น ตำไหลบัว เพราะด้วยความหวาน และมีความกรอบสดเป็นเอกลักษณ์ แต่ ‘สายบัว’ หลาย ๆ คนมักนิยมไปทานกับน้ำพริก แกงกะทิสายบัว ผัดสายบัว แกงส้มสายบัว หรือเมนูที่ปรุงสุกแล้วมากกว่า ด้วยเอกลักษณ์ที่สุกแล้วจะมีความหวานเลยทำให้นิยมทำเป็นเมนูที่เอาไปลวกหรือไปแกงนั่นเอง

สุดท้าย ‘ไหลบัว’ หรือ ‘สายบัว’ ก็ต่างเป็นบัวเหมือนกันแต่ต่างกันที่ ‘ไหลบัว’ จะเป็นต้นอ่อนที่ยังไม่พ้นน้ำ มีสีขาว กรอบ นิยมทานสด แต่ ‘สายบัว’ คือส่วนสายของบัวที่โตจนโผล่พ้นน้ำแล้ว มีสีน้ำตาลปนแดง นิยมทานเมื่อสุกมากกว่า และก่อนทานต้องปลอกเปลือกเท่านั้น แต่ถึงจะต่างกันทั้ง 2 ก็ต่างเป็นวัตถุดิบที่น้ำไปประกบอาหารอร่อย ๆ ได้หลากหลายเมนูเหมือนกัน

รู้หรือไม่ 💡 ไหลบัว กับ สายบัว ไม่เหมือนกันนะ 🤔

เพิ่มเติม

ค้นพบร้านอาหารแนะนำ