รู้หรือไม่💡 การกินช็อกโกแลต 🍫 ไม่ได้ทำให้เกิดสิว 🤔

19/02/2023
วาเลนไทน์ เทศกาลความรักที่ผ่านมานั้นของขวัญยอดฮิตที่หลาย ๆ คนมอบแทนความรัก ก็จะมีดอกไม้ ตุ๊กตา และที่ขาดไม่ได้เลยคือ “ช็อกโกแลต” ที่ดูหวานละมุน ใครได้ไปก็ต้องรับรู้ถึงความใส่ใจ และทำให้อีกฝากประทับใจได้อย่างแน่นอน แต่บางคนก็กังวลว่าหากได้รับช็อกโกแลต แล้วเมื่อกินจะทำให้เกิดสิว ที่เป็นปัญหาผิวที่ทุกคนไม่ชอบและไม่อยากเป็น
“ช็อกโกแลต” ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่หลาย ๆ คนชื่นชอบและมีหลายคนที่เป็นช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ เพราะช็อกโกแลตสามารถนำไปแปรรูปเป็นของหวานที่หลากหลาย เช่น เค้ก ไอศกรีม เครื่องดื่มต่าง ๆ ขนมขบเคี้ยว ภาพจำคือเป็นของหวานแสนอร่อย ที่กินแล้วทำให้อารมณ์ดี จึงไม่แปลกใจเลยที่เมื่อถามผู้คนว่าอาหารที่ชอบคืออะไร จะมีชื่อช็อกโกแลตโผล่ขึ้นมาอยู่เสมอ และเป็นลิสต์ของของขวัญที่เลือกจะส่งต่อให้กับเพื่อนหรือคนรักจนเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลวาเลนไทน์ เทศกาลความรักที่ทุกคนทั่วโลกชื่นชอบ จนมีผลิตภัณฑ์ออกมากมายเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค
แต่น่าเศร้าคือหลาย ๆ คนยังเข้าใจผิดมองว่าช็อกโกแลตเป็นผู้ร้ายที่ทำให้เกิดสิว ยิ่งกินมากยิ่งทำให้สิวเห่อ จนมีบางคนที่กลัวการกินช็อกโกแลตไปเลย ซึ่งความจริงสาเหตุการเกิดสิวไม่ได้มาจากช็อกโกแลตซะทีเดียว หากเป็นช็อกโกแลตที่มีความเข้มข้นของโกโก้ 70% ขึ้นไป เนื่องจากช็อกโกแลตเป็นผลผลิตจากเมล็ดโกโก้ จึงไม่มีส่วนที่ทำให้เกิดสิว แต่สาเหตุจริงคือไขมันและน้ำตาลที่ผสมลงไปในช็อกโกแลตต่างหากที่เป็นต้นตอการเกิดสิว เพราะปริมาณน้ำตาลและไขมันที่ผสมลงไปในช็อกโกแลตที่ปริมาณมากเกินกว่าร่างกายต้องการ ทำให้ร่างกายจำเป็นต้องหลั่งไขมันส่วนเกินออกมาทางรูขุมขนมากขึ้น เป็นหนึ่งในสาเหตุให้เกิดสิวอุดตันได้ ส่วนน้ำตาลเมื่อรับในปริมาณที่สูงมาก ๆ ร่างกายก็จะหลั่งอินซูลินเยอะ ซึ่งมีผลข้างเคียงคือผิวหนังแบ่งตัวเร็วและหนาขึ้น ส่งผลให้เกิดการอุดตันของผิว ซึ่งสาเหตุของการเกิดสิวยังเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งแต่ละคนจะแตกต่างกันไป
ช็อกโกแลต (ต้องมีความเข้มข้น 70% ขึ้นไปเท่านั้น) นอกจากไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวแล้ว การกินช็อกโกแลตยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย จึงช่วยบำรุงเลือดทำให้เกิดการไหลเวียนโลหิตได้ดีขึ้น และช่วยลดความเครียด จากที่มีการศึกษาพบว่าคนที่ทานดาร์กช็อกโกแลตปริมาณ 40 กรัมทุกวันนาน 2 สัปดาห์ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนแห่งความเครียดลดลง เมื่อเทียบกับวันแรกที่เริ่มทานอีกด้วย ในการกินช็อคโลแลตคือแนะนำให้ทาน ดาร์กช็อคโกแลต 20 – 30 กรัม หรือ 1 ชิ้นเล็กต่อวัน และควรเลือกช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้อย่างน้อย 70 %
วันนี้เราก็ได้ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับช็อกโกแลตไปแล้ว ใครที่เป็นช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ก็มีความสุขกับการกินช็อกโกแลตได้เต็มที่ หรือใครจะซื้อช็อกโกแลตไปเป็นของขวัญเนื่องจากเดือนแห่งความรักนี้ก็ให้ได้แบบไม่ต้องเป็นกังวลแล้วน้าา แต่ทั้งนี้ทุกอย่างควรกินในปริมาณที่เหมาะสม หากมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกันนะทุกคน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://bit.ly/3KkMmpd https://bit.ly/3jOHPAu
บทความแนะนำ
card image
รู้หรือไม่ 💡Americano และ Long Black ☕ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ⁉️
card image
รู้หรือไม่ 💡ไข่กุ้งในซูชิ 🍣 ความจริงแล้วเป็นไข่ปลา 😱
card image
รู้หรือไม่ 💡ตำลึงเป็นผักมีเพศ ☘️ กินผิดอาจท้องเสียได้ 😱
card image
รู้หรือไม่ 💡ขอบขนมปังที่หลายคนทิ้ง 🍞 มีประโยชน์กว่าเนื้อถึง 8 เท่า⁉️
card image
รู้หรือไม่ 💡ไม่ควรทานมันฝรั่ง🥔 หรือพืชตระกูลมันที่มีหน่องอก🌱❌
card image
รู้หรือไม่ 💡วิธีเก็บไวน์ที่ดี 🍷 ควรวางแนวนอนไม่ใช่แนวตั้ง 🍾
card image
รู้หรือไม่ 💡คำว่า ‘ส้ม’ 🍊 ใช้ในการเรียกผลไม้ก่อนสีส้ม 🧡
card image
รู้หรือไม่ 💡ทำไมชีสบางชนิดถึงมีรู 🧀
card image
รู้หรือไม่ 💡ปรุง ‘ผักกวางตุ้ง’ ผิดวิธี 🥬 จากประโยชน์อาจกลายเป็นโทษได้ 🤔
card image
รู้หรือไม่ 💡ขนมไทยดั้งเดิม 🇹🇭 ไม่มี ‘ไข่’ เป็นส่วนผสม ❌🥚