รู้หรือไม่💡 การกินไข่ ไม่ได้ทำให้เป็นแผลคีลอยด์ 🥚🍳

26/02/2023
เพื่อน ๆ หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างไม่มากก็น้อยกับการที่ห้ามกินไข่เมื่อเป็นแผล หรือเมื่อเราผ่าตัดมา เพราะจะทำให้แผลหายช้า และที่สำคัญเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดแผลเป็นคีลอยด์หรือแผลเป็นนูน ที่ทั้งทำให้ผิวดูไม่สวย รักษายาก บางคนก็มีอาการแทรกซ้อนด้วย เช่น คัน เจ็บ แต่ความจริงแล้ว “ไข่” ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดแผลคีลอยด์เลย แถมไข่ยังยังมีประโยชน์ในส่วนช่วยให้การซ่อมแซมผิวดีขึ้นด้วย
แผลเป็นคีลอยด์ (Keloid) หรือแผลเป็นนูน มีลักษณะเป็นแผลแข็ง นูน มีผิวมัน สีออกแดงหรือชมพู เกิดได้ทั่วร่างกาย ที่สำคัญคือไม่มีใครอยากให้เกิดกับตัวเอง เพราะทำให้ความมั่นใจหาย และรักษายากมาก ๆ เมื่อเวลาเราเป็นแผลทุกคนก็จึงพยายามทำทุกวิธีเพื่อเลี่ยงการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ และก็จะมีคนมาบอกว่าว่าถ้าไม่อยากเป็นคีลอยด์ให้เลี่ยงการกินไข่ ไม่ว่าจะเมนูอะไรก็ตาม แต่การเกิดแผลเป็นคีลอยด์นั้นไม่ได้มาจากการกินไข่เลย สาเหตุจริง ๆ ของการเกิดคีลอยด์นั้นเกิดการสร้างคอลลาเจนที่แผลมากจนผิดปกติ เลยทำให้ผิวมีลักษณะนูนขึ้นเกินผิวจริงของเรา
ปัจจัยในการเกิดแผลเป็นคีลอยด์หรือแผลเป็นนูนนั้นยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกมาแน่ชัด ว่าอะไรที่ส่งผลให้เกิดแผลคีลอยด์ได้มากกว่ากัน แต่ผลจากการวิจัยว่าคนที่เคยเป็นคีลอยด์แล้ว มีโอกาสเกิดซ้ำทั้งที่เก่าและที่ใหม่ และคนที่มีประวัติครอบครัวเคยมีแผลเป็นคีลอยด์ก็จะมีโอกาสเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้มากกว่าบุคคลอื่น หรือบางคนอาจจะเกิดจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ แต่ไข่นั้นไม่มีส่วนที่ทำให้เกิดแผลเป็นคีลอยด์เลย ยิ่งไปกว่านั้นการกินไข่นั้นมีประโชยน์มากเมื่อเราเป็นแผล หรือหลังได้รับการผ่าตัดมา เพราะไข่นั้นอุดมไปด้วยโปรตีนที่มีส่วนเสริมการฟื้นฟูของเซลล์ในร่างกายให้แผลของเราสมานและหายเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายนี้เราก็ได้ไขข้อข้องใจไปแล้วว่า “ไข่” ไม่ได้มีส่วนให้เราเกิดแผลเป็นคีลอยด์หรือแผลเป็นนูนเลย และนอกจากนี้ไข่ยังมีประโยชน์อีกเยอะเลย เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่คอยเสริมสร้างร่างกายของเรา มีแคลเซียมที่เสริมสร้างกระดูก อีกทั้งมีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชลอความแก่ ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย เรียกได้ว่าใบเล็กแต่ประโยชน์เยอะจริง ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก https://bit.ly/3EaQFPM http://bit.ly/3k8KmW5