รู้หรือไม่ กินไก่เยอะ ไม่ได้ทำให้เป็นโรคเก๊าท์🐓‼️

05/02/2023
เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งว่า “ถ้ากินไก่เยอะจะทำให้เป็นเก๊าท์” แต่จริง ๆ แล้วนั้นการกินไก่ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักของการก่อให้เกิดโรคเก๊าท์อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะโรคเก๊าท์เกิดจากภาวะกรดยูริค (uric acid) ในเลือดสูงเกินไป ซึ่งกรดยูริกเป็นสารชนิดหนึ่งในร่างกายที่สร้างขึ้นที่ตับ เกิดจากการสลายตัวของสาร “พิวรีน” โดยสาเหตุของการเกิดกรดยูริคในเลือดสูง และประมาณ 70% เกิดจากการสร้างขึ้นเองของร่างกายตามธรรมชาติ ส่วนอีกประมาณ 30% เกิดจากการทานอาหารที่มีสารพิรีนสูงงเข้าไป เนื่องจากกรดยูริกเกิดจากการเผาผลาญสารพิวรีนในอาหาร
หากร่างกายมีกรดยูริกสะสมมากจนตกตะกอนเป็นผลึกในน้ำไขข้อของกระดูกต่างๆ จะเกิดอาการปวดบวมแดง อักเสบอย่างรุนแรง ร้อนบริเวณข้ออย่างฉับพลันทันทีทันใด โดยมักเริ่มจากข้อบริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้า แต่ก็สามารถเกิดกับข้ออื่น ๆ ได้ เช่น ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ ซึ่งเป็นอาการของโรคเก๊าท์นั่นเอง
และปัจจัยที่กระตุ้นให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงจนตกตะกอนเป็นผลึก ได้แก่
- การเป็นโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) โรคสะเก็ดเงิน โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต
- การใช้ยาบางชนิด ที่ส่งผลให้ไตขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะได้น้อยลง
- การรับประทานอาหารที่มีสารพิรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ทุกชนิด เนื้อสัตว์สีแดง สัตว์ปีกอาหารทะเล เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลฟรุกโตส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น ซึ่งในส่วนของการทานอาหารที่มีสารพิรีนสูงก็เป็นเพียง 30% ของการเกิดกรดยูริกที่ร่างกายจะได้รับ
ดังนั้นจากคำที่บอกว่า “ถ้ากินไก่เยอะจะทำให้เป็นเก๊าท์” จึงไม่เป็นความจริงสักทีเดียว เพราะการกินไก่ไม่ได้ทำให้คนปกติกลายเป็นโรคเกาต์ได้ แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์อยู่แล้วการทานไก่ หรืออาหารที่มีโปรตีน และสารพิรีนที่ก่อให้เกิดกรดยูริกสูงจะทำให้อาการกำเริบขึ้นมาได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์อยู่แล้วจึงควรหลีกเลี่ยงการทานไก่นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก https://bit.ly/3YhZ5g8 https://bit.ly/3HW364q https://bit.ly/3RGxnHB