ร้านอาหารสไตล์ Progressive American Cuisine โดย Chef Dan Bark เชฟออปป้าชาวเกาหลี-อเมริกันที่มีดีกรีถึงเชฟมิชลินสตาร์ ร้านสวยมากบรรยากาศกึ่ง fine dining และมีความ casual อยู่ในที อาหารอร่อยทุกจานเลย โดยเฉพาะ Truffle brioche toast บริยอชกรอบนุ่มชีสละลายในปากเลิศมาก สลัดผัก Kale เบค่อน กับ Caesar Salad นี่ก็อร่อยสุดที่เคยกินมา พาสต้ากุ้งลังกูสตีน (Langoustine) เนื้อหวานคล้ายมินิ lobster พาสต้านี่รสนัวสุดๆ Angus Rib-eye Steak ชอบความฉ่ำของเนื้อและซอส au jus ที่มีความเผ็ด spicy ผสมอยู่ ตบท้ายของหวาน Apple Tart & honey milk ice cream กับ New York Cheese cake & Orange หวานน้อยมาก เอ่อ ขนมหวานทำให้หวานน้อยแบบนี้ก็ดีเลยนะ ใครไหว แนะนำสั่ง cocktail/mocktail ซักแก้ว
ป ชวนชิม : Caper by Dan Bark - เดลิเวอรี่กับเมนูของคุณเชฟมิชลิน 1 ดาว เชฟ Dan Bark เพิ่งย้ายมาเปิดร้าน ของตนเองร้านนี้ เดิมคุณเชฟ คว้าดาวมาได้ 1 ดวงจากร้าน Upstairs at Mikkeller ร้านใหม่ของคุณเชฟชื่อ Cadence แบ่งอาหารออกเป็นสอง zone คือ zone fine dining เรียกว่า Cadence และ zone อาหารมาตรฐาน คือ Caper ซึ่งช่วงนี้มีเดลิเวอรี่ด้วย 🎯อาหาร: ♦Caper Signature Caesar Salad (350) - white anchovy, parmesan cheese, bacon & cos ผักคอสร้านนี้เลือกแบบอ่อนๆสดกรอบ แอนโชวี่อย่างเข้ม ชอบพาเมซานขูดมากๆ รสชาติออกเค็มนำสไตล์อิตาเลี่ยน 8/10 ♦Angus ribeye steak (990) - beef steak, scallion kimchee, fried smash potato เนื้อชิ้นหนา grilled ดี มีความชุ่มฉ่ำ ไม่ถึงกับละลายในปากแต่ชอบอะ เครื่องเคียงอร่อยหมด น้ำซอสรสเข้มข้นจัดจ้าน 9/10 ♦Truffle toasts (360) - brioche, truffle cheese, fresh truffle, parmesan cheese จัดว่าโคตรเด็ด ตัวโทสต์กรุบแน่นุ่ม หอมทรัฟเฟิลและพาเมซาน๙ีสขูดฝอยรสเค็มมันเข้มข้น อร่อยโฮก 10/10 ♦Japanese Cheddar biscuit ( แถมฟรี เมื่อสั่งอาหารครบ 1500) มาแบบกล่องใหญ่ สามชิ้นอวบอวบอุ่นๆ สไตล์บิสกิตเนื้อร่วนนุ่มในแต่มันเนย มันเนยแบบไม่เอียนนะ มีซอสน้ำผึ้งและพริกจาลาเปโนดอง แปลกดี 8/10 🎯พิกัด : Caper by Dan Bark 083 783 4867 https://maps.app.goo.gl/QSEDpiyy413A7i8M6 🎯บริการ : สั่งผ่าน line รับ order โปรๆ โอนตังค์ นั่งรอ สั่งครบ 1500 แถม biscuit ครบ 2500 ส่งฟรีอีกตะหาก 9.5/10 🎯Line ร้าน : https://timeline.line.me/user/_dTU0LW1jRJNYElDtiNJg6b6PzU-fZ9H2YlsIgtI 🎯ราคา : สูงกลางๆ ไม่ถือว่าแพงมาก โดยเฉพาะเมนูเนื้อ เนื้อดี ไม่แพงเลย 8.5/10 อิ่มดาวฮ่ะ ป ชวนชิม https://www.facebook.com/359160411107488/
ร้านอาหารสไตล์ New American Casual Dining ที่พิกัดที่ตั้งร้านจะอยู่ที่เดียวกับร้าน Cadence (มิชลิน 1 ดาว ปี 2021) ร้านอาหารแบบ Fine Dining ของ Chef Dan ถึงแม้เมนูที่ร้าน Caper จะไม่ได้มีให้เลือกเยอะ แต่ทุกเมนูที่เราได้ลองชิม ไม่ว่าจะเป็น Mocktail, Snacks, Starters, Main Dishes, และ Desserts ถือว่าปรุงรสชาติออกมาได้น่าประทับใจแบบที่อยากกลับไปลองเมนูอื่นๆ ของที่ร้านเพิ่มเติม อีกทั้งราคาก็เข้าถึงได้ง่ายกว่าร้าน Cadence สำหรับมื้อนี้ เราเริ่มต้นมื้อกันที่ Welcome Drink 🍸 เสริฟเป็น Mocktail ที่มีส่วนผสมหลักคือเลมอนและน้ำมะม่วง รสออกเปรี้ยวๆ หวานๆ เติมความสดชื่นได้ดี ส่วน Snacks แนะนำให้ลอง “Truffle Toast” ตัวโทสต์ใช้เป็นขนมปังบริออช โปะด้านบนด้วย truffle cheese, parmesan, และทรัฟเฟิลสดขูดเป็นเส้นๆ เป็นจานที่ทานเพลินมากทีเดียว Starters เลือกมา 2 เมนู จานแรกคือ “Salmon Crudo” ที่จะนำเนื้อแซลมอลไปหมักกับ beetroot เสริฟคู่กับครีมชีส, แอสพารากัสย่าง, green & coconut vinaigrette เนื้อปลามีความเด้ง ทานคู่กับน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของกะทิ ก็แปลกดี ส่วนอีกจานที่ได้ลอง “Beet Salad & Duck Confit Croquette” Croquette ทำจากเนื้อเป็ดกงฟี ปั้นมาเป็นลูกกลมๆ ทอดมาจนผิวกรอบ ทานคู่กับส่วนประกอบอื่นๆ อย่าง goat cheese, beetroot, และควินัวสลัด แม้จะเป็นรสชาติที่มีความ complex แต่ก็จัดว่าอร่อยลงตัวเมื่อทานทุกส่วนประกอบในคำเดียว ในส่วนของ Main Dishes เราค่อนข้างถูกใจทั้ง 2 เมนูที่เลือกมา ไม่ว่าจะเป็น “Seared Duck Breast” ที่แอบลุ้นในใจตอนแรก เพราะไม่ชอบทานหนังเป็ดดึ๋งๆ ปรากฏหนังและเนื้อเป็ดทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก มีความพิ๊งค์และนุ่มกำลังดี หนังก็ไม่ได้มีชั้นไขมันหนาๆ ทานคู่กับฟักทองเพียวเร่, cranberry รมควัน, ซอสเลมอน, และกะหล่ำแดงตุ๋น ลงตัวสุดๆ ทางฝั่ง “Hokkaido Scallops” ใช้ Scallop เนื้อหนา มีความสดหวาน ปรุงมาแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เสริฟคู่กับบาร์เลย์ริซอตโต้ที่มีความหนุบกำลังดี, ดอกกะหล่ำย่างและซอสเคเปอร์ อร่อยสมกับที่คาดหวังเอาไว้ จบจากของคาว ขอปิดท้ายมื้อนี้กันด้วยของหวานที่มีรสชาติน่าสนใจอย่าง “Banana Bread & Bacon” ที่ได้ทั้งรสเค็มๆ มันๆ จากเบคอน และความหวานฉ่ำจากขนมปังกล้วยหอม แต่แนะนำว่าต้องทานทุกส่วนประกอบในคำเดียว ไม่งั้นก็อาจจะได้รสเค็มหรือรสหวานที่มากเกินไปซักนิด โดยรวม เราว่าอาหารร้านนี้รสชาติน่าสนใจและมีความแปลกใหม่ ไม่น่าเบื่อ ส่วนการบริการก็ดีเยี่ยม พนักงานแนะนำอาหารและเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี เพียงแต่เส้นทางมาร้าน อาจจะดูยากซักเล็กน้อยและถึงแม้ที่จอดรถจะมีจำกัด แต่ก็มี valet parking บริการ #Rettyfamily
Caper by Dan Bark – เป็นโปรเจ็กต์ล่าสุดของเชฟ Dan Bark ชาว Korean-American ผู้เคยทำให้ร้าน Upstairs at Mikkeller ได้รับรางวัล 1 Michelin Star มาแล้วตั้งแต่ปีแรกที่มีการมอบรางวัลจนถึงวันที่ร้านปิดตัวลง ด้วย concept ที่ต้องการนำเสนอ Comfort Modern American Cuisine ในรูปแบบที่ผ่อนคลายและเข้าถึงง่าย ตรงตามความหมายของคำว่า “Caper” อันสื่อถึงการเต้นรำกระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริงสนุกสนาน นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เชฟ Dan Bark ทำเมนูอาหารแบบ a la carte ให้เราสามารถเลือกสั่งเป็นจานๆได้ตามใจ มี serving size ที่สามารถแชร์กันทานได้ ให้อารมณ์แตกต่างจาก“Cadence by Dan Bark” ที่ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันและได้เปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นร้าน Fine-dining ที่เชฟจะเสิร์ฟ course menu เต็มรูปแบบนะคะ ในส่วนของการตกแต่งร้านนั้นเป็นสไตล์ Art Deco ซึ่งดูเข้ากันกับความเป็นอเมริกันของอาหารที่นี่ได้ดี เริ่มจาก Drink Bar บริเวณด้านหน้าที่ชวนให้นึกถึง Prohibition Era และ Dining Area ด้านในที่ให้อารมณ์แบบงานเลี้ยงใน The Great Gatsby มีห้องครัวขนาดใหญ่กั้นด้วยกระจกใสอยู่ตรงกลางให้มองเห็นทีมเชฟขณะเตรียมอาหารได้ถนัด โดยบริเวณห้องครัวนี้จะเชื่อมกับร้าน Cadence ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของตึกด้วยค่ะ *****-เมนูที่ลอง-***** ✅ [DRINK] ครั้งนี้ที่ไปทานเป็นดีล BRW 2020 จากแอพ Wongnai จึงมีเครื่องดื่มรวมอยู่ด้วย เป็นคล้ายๆ Lemon Soda ที่มีกลิ่นมะม่วงแฝงมาแค่เบาๆ มีสมดุลเปรี้ยวหวานที่ลงตัวสดชื่นเป๊ะเลย แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่ดูง่ายๆ แต่เห็นฝีมือแล้วก็เชื่อว่าทั้ง Mocktails และ Cocktails ในเมนูหลักของร้านต้องดีแน่ๆเลยล่ะค่ะ ✅ [SNACK] ➡️ TRUFFLE TOAST | toasted brioche, truffle cheese, parmesan & fresh summer truffle shavings ขนมปังบริยอชที่อบมาจนผิวนอกกรอบกริ๊บแต่เนื้อในยังนุ่มนวล โปะมาด้วย truffle cheese ล้นๆฉ่ำๆ ขูดชีส parmesan โรยมาท่วมๆฟูฟ่อง แล้วท็อปด้วย summer truffle อีกที ได้ทั้งความหอมมันของชีสและกลิ่นรสทรัฟเฟิลกรุ่นอวลเต็มคำ เรียบง่ายแต่อร่อยไม่รู้ลืมเลยทีเดียว ✅ [STARTERS] ➡️ BEET SALAD & DUCK CONFIT CROQUETTE | romesco, black garlic & goat cheese เป็นสลัดที่มีองค์ประกอบซับซ้อนหลากหลายแต่นำมาทานร่วมกันได้ลงตัวสุดๆ เริ่มจากบีทรูทที่นำมาดองจนเนื้อนุ่ม ได้รสหวานอมเปรี้ยว/ croquette ที่ทำจากเนื้อเป็ด confit แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมชุบแป้งขนมปังทอดจนผิวกรอบ เนื้อเป็ดทั้งละมุนและหอมมากมาย / quinoa ที่นำมาต้มแบบ pasta ปรุงรสด้วยซอส romesco ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ ไขมันจากเป็ด เกลือ ถั่ว พริกไทยใส่ black garlic ได้รสชาติออกมากลมกล่อมกำลังพอดี / ใส่ผักทั้งใบ rocket และหัวหอมซอย แล้วยังขูด goat cheese โรยมาทั่วๆ ทุกอย่างในจานมีการเสริมรส-ตัดรสกันเป็นอย่างดี อวดฝีมือการผสมผสานทั้งรสชาติและ texture ได้น่าประทับใจจริงๆค่ะ ➡️ SALMON CRUDO | cream cheese, grilled asparagus, greens & coconut vinaigrette Cured salmon ที่หมักด้วยบีทรูทจนมีสีแดงก่ำเนื้อแน่น-นุ่ม ราดด้วยครีมชีสและ vinaigrette ที่ทำจากกะทิผสม cherry vinegar และน้ำมันมะกอก ชิมแล้วได้รสหวานนำ-เค็มบางๆ-เปรี้ยวเบาๆ สมดุลกลมกล่อม มีกลิ่นรสกะทิชัดเจนจริงเสียด้วย โรยข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ทอดจนเป็นข้าวพองกรอบๆมันๆ ใส่ผักสด ผักชี ไชเท้าญี่ปุ่นฝานบาง และ Asparagus ที่เอาไปย่างให้หอมเสียก่อน ทั้งครีเอทและมีดีเทลที่ชวนให้ทึ่งเอามากๆ ✅ [MAIN DISHES] ➡️ SEARED DUCK BREAST | pumpkin puree, smoked cranberry & braised red cabbage เนื้ออกเป็ดจี่จนหนังด้านนอกกรอบกริ๊บ หนังเป็ดมีความหนาค่อนข้างมาก ด้านในจึงยังเป็นหนังนุ่มๆอยู่ แต่แปลกมากที่ทานแล้วไม่เลี่ยนแบบเป็ดหนังหนาทั่วไป แถมมีสัมผัสที่เคี้ยวสนุกไปอีก ส่วนเนื้อเป็ดก็สุกสม่ำเสมอกันเป็นสีชมพูสวย ทั้ง นุ่มละมุนและหอมมาก ซอสราดรสเค็มอ่อนๆกลมกล่อม แฝงกลิ่นอายแบบเอเชียนิดๆ ทานแกล้มกับ puree ฟักทองเนื้อเนียนละเอียด, กะหล่ำม่วงตุ๋น, smoked cranberries และ lemon sphere รสเปรี้ยวสดชื่นที่แต้มเป็นจุดๆอยู่บนจาน โรยเมล็ดฟักทองกรอบๆ ใส่ผักสดอีกนิดคือลงตัว อร่อยน้ำตาจิไหล ➡️ HOKKAIDO SCALLOPS | barley "risotto", roasted cauliflower & caper sauce เป็นอีกจานที่ฟินหนักมาก หอยเชลล์ชิ้นอวบ จี่มาพอให้ผิวเป็นรอยไหม้หอมๆสุกกลางๆเนื้อนุ่มกำลังดี Caper sauce ที่ราดมามีรสชาติกลมกล่อมลุ่มลึกละมุนลิ้น ทานกับ Risotto ข้าวบาร์เล่ย์นุ่มหนึบ ใส่ดอกกะหล่ำที่มีทั้งแบบต้มและแบบอบกรอบๆ โรยผักชีลาวเพิ่มกลิ่นหอม ปลี้มปริ่มมากบอกเลย ✅ [DESSERT] ➡️ BANANA BREAD & BACON | warm banana bread, bacon ice cream & rum maple syrup เป็นขนมปังที่ใส่กล้วยหอมบดผสมในเนื้อขนมปัง อบจนผิวนอกกรอบ เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติกล้วยหอมแบบเต็มๆ เสิรฟ์อุ่นๆ ทานกับไอศกรีมรสเบคอนเนื้อละเอียดครีมมี่ โรย bacon bits กรอบๆเค็มๆ แล้วราด rum maple syrup เพิ่มความหอมหวาน ทานรวมกันทุกส่วนคือดีงามค่ะ ⭐️THE VERDICT⭐️ อาหารอเมริกันนั้นได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอาหารของชนชาติต่างๆที่เข้าไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศอเมริกาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงชาวอเมริกันสายเลือดเกาหลีอย่างเชฟ Dan Bark ด้วย อาหารที่นี่จึงมีการสอดแทรกรสชาติจากเอเชียเข้ากับอาหารตะวันตกได้อย่างมีเอกลักษณ์ มีไอเดียในการผสมผสานรสชาติที่น่าทึ่ง จากที่ได้ลองครั้งนี้ ถ้าให้สรุปง่ายๆในประโยคเดียวเลยก็คือ “อร่อยทุกอย่าง” ไม่ว่าจะเลือกลองจานไหนก็ดีงามไปหมด แม้จะเป็นอาหารที่สั่งจากเมนูได้แบบ a la carte แต่ก็เต็มไปด้วยดีเทลแสนประณีตใกล้เคียงกับอาหารคอร์สในร้านระดับ Fine Dining เป็นมื้อประทับใจที่ทานแล้วหลงรักร้านนี้ไปเลย ใครชอบอาหารแนวนี้บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดค่ะ #Nov2020