อีกหนึ่งสาขาที่ได้มาใช้บริการค่ะ ครั้งนี้เป็นการรวมเดอะแก๊งในที่ทำงานมาทานรวมกัน ราคาบุฟเฟ่ต์เริ่มต้นที่ 399 ++ แต่ถ้าอยากทานปลาส้ม(แซลมอน) ด้วย เริ่มที่ 699++ ค่ะ เราเบยเลือกสั่งในราคา 699 ++ ทานกันเพลินๆยาวไป 2 ชั่วโมง อาหารออกมาไม่ช้า ค่ะ คุณภาพอาหาร ใช้ได้ การบริการใช้ได้ ในเซ็ทราคานี้ สามารถทานได้ทั้งหมูและเนื้อ ขอบทานเล่น และเครื่องเคียงซาชิมิ ข้าวปัเน ขนมหวานและเครื่องดื่ม ภาพรวมถือว่าค่อนข้างดี ราคารวม vat และ service ราวๆ 8 ร้อยกว่าบาท ก็อาจจะสูงไปนิด แต่ก็พอไหวค่ะ
OISHI Grand ฉบับปรับปรุง 👍👏👏👏 มันดีกว่าที่คิด คือมากินที่ Paragonร้านข้างๆ Sushiสายพาน กินแต่ละครั้งต้องมี 8-9 ร้อย หรือ พันขึ้น กับร้านนี้ OISHI Grand ฉบับปรับปรุงมีหลากหลายกว่า และที่ชอบที่สุดคือความสดใหม่ของซูชิ ที่ลูกค้าสั่งเชฟถึงจะทำ ลูกค้ากินแล้วรู้นะ อุณหภูมิกับความสดมันต่าง ซูชิหน้าปลาไหลคือที่สุด หอมมาก ซูชิที่นี่คือเด็ดหลายตัว เมนูพิเศษทั้ง 2 เมนูอร่อยทั้ง2เมนู สุกี้ยากี้ก็มี ของทอดเดินตักได้เลย อิซากายะก็มา หอยนางรมอย่างสด อ่อ ห้ามพลาดคือเมลอนญี่ปุ่น❗อย่างหวาน เอาอะไรมาไม่คุ้ม (เสียดาย sashimi เย็นไปหน่อย แต่salmonดี) ที่เรากินคือ PREMIUM Buffet ได้ลด 20%ด้วย❗❗❗ ใครหาส่วนลด โหลด app Bev Food ลงทะเบียนเสร็จ รับส่วนลด 20%จร้า - PREMIUM Buffet รวมกว่า 140 รายการ ราคา 1,059 บาท++ - PLATINUM Buffet ยากินิกุเนื้อวากิว หอยเชลล์จัมโบ้ย่างซอสใบโฮบะ ซูชิโฮตาเตะ และซูชิเนื้อวากิวเต็มคำ รวมกว่า 190 รายการ ราคา 1,659 บาท++ - PRESTIGE Buffet ซูชิคุณภาพระดับโอมากาเสะ ซูชิซูโทโร่คาเวียร์ ซูนิอุนิบนสาหร่ายมากุโระ และซูชิเนื้อวากิว A4 เมนูพิเศษระดับเพรสทิจ เช่น ยากินิกุเนื้อวากิว A4 เสิร์ฟพร้อมเกลือทรัฟเฟิล รวมกว่า 200 รายการ ราคา 2,659 บาท++ 🏤 โออิชิแกรนด์ (OISHI GRAND) สยามพารากอน ชั้น4 🕛 เปิดบริการทุกวัน 11.00-22.00 น. 📱 095-207-4613 ราคายังไม่รวม VAT 7% และ Service Charge 10%
วันนี้มาลอง 499++ (588net) คืออิ่มมากๆ อิ่มถึงคอหอย กินไป 22จาน รวมของหวาน 2คน จัดซาชิมิไปเบา 5set ที่เหลือสั่งกรุบกริบ ตามรูปแต่คืออิ่มมากๆ ไป2คน คุณภาพซาชิมิ ตามราคาไม่ได้ดีมาก เมนูอิซากายะดีเลยชอบ ไอศครีมอร่อย 🏠 Kouen Sushi Bar | Siam Square 1 📱 061 895 7777 📍 https://maps.app.goo.gl/zDKf11TDquHkevgW7
ทุกๆครั้ง ที่ทาน #Sushiro เสร็จ ก็จะมีการให้รีวิวอาหารและเขียนคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อแลกกับส่วนลดค่าอาหารในครั้งต่อไป ผู้เขียนก็จะเขียนไปทุกครั้งว่าอยากให้มีเมนูซาซิมิบ้าง ทาง Sushiro น่าจะนำไปทำการบ้านเป็นอย่างดี จนครั้งนี้กับสาขาเปิดใหม่ล่าสุด ที่ #สยามพารากอน เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ได้จัดเต็มกับเมนูพิเศษอย่าง #ซาซิมิ ครั้งแรกกับเค้าสักที ยังไม่พอ ซูชิทุกคำที่ปั้น จะใช้ #ข้าวสีแดง แบบเดียวกับที่ร้านโอมากาเสะชอบใช้กันอีกด้วย รสชาติจะเป็นยังไง วันนี้จะมารีวิวกัน เพื่อนๆ อาจจะสงสัยกันว่า ข้าวสีแดง คืออะไร ทำไมร้านโอมากาเสะชอบใช้กัน โดยปกติแล้ว ข้าวญี่ปุ่นที่นำมาทำซูชิ เวลาหุงจะต้องมีการใส่น้ำส้มสายชูเพื่อฆ่าเชื้อโรคในปลาดิบ ปัจจุบันจะใช้แบบใสที่ผ่านการกลั่น ซึ่งความเข้มข้นจะไม่ได้เยอะมาก แต่ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า น้ำส้มสายชูจะยังเป็นสีแดงถึงแดงเข้ม ขึ้นอยู่กับกระบวนการ เมื่อนำมาหุงข้าว เลยทำให้ข้าวกลายเป็นสีแดงนั่นเอง ซึ่งข้อเสียอย่างนึงของการใช้น้ำส้มสายชูสีแดง คืออาจทำให้ลิ้นรับรสเพี้ยนไปนั่นเอง ดังนั้นร้านโอมากาเสะที่ดี จะไม่เสิร์ฟข้าวสีแดงเยอะจนเกินไป กลับมาที่ Sushiro สาขาสยามพารากอนกัน ที่นี่ก็เสิร์ฟข้าวสีแดงเช่นกัน แต่สีจะไม่ได้แดงหรือออกไปทางน้ำตาลเหมือนร้านโอมากาเสะ เหตุผลเดียวกันกับข้างบนนั่นแหละ โดยจะเห็นได้ชัดกับเมนูที่ใช้วัตถุดิบสีขาว อาทิเช่น หมึก โฮตาเตะ และปลาเนื้อขาวต่างๆ อย่างเอนกาวะ วัตถุดิบที่เหมาะกับการทานคู่กับข้าวซูชิสีแดง ก็คือทูน่า แซลมอน และกุ้ง เมนูที่อยากให้ลองกันสำหรับข้าวซูชิแดงสำหรับสาขานี้ ก็จะมี โฮตาเตะย่างกับอูนิสด ราคา 150 บาท เริ่มต้นแบบคลีนๆ นิดหน่อย กับโฮตาเตะเนื้อหนึบมีความหอมจากการเบิร์นด้วย Blow torch นิดหน่อย ท๊อปด้วยอูนิเพื่อเพิ่มความอูมามิ ข้าวจะไม่ได้เปรี้ยวทำให้รสชาติโฮตาเตะชัดเจน ชูโทโระกับอูนิสด ราคา 150 บาท วัตถุดิบนี้เหมาะกับข้าวแดงที่สุดแล้ว เพราะมีความเลี่ยนที่ตัดกับความเปรี้ยวของข้าวได้ดี และยังมีความอูมามิจากอูนิอีก ละลายในปากแบบฟินๆ กุ้งแดงใหญ่หมักซอสโชยุกับอูนิสด ราคา 150 บาท สำหรับคนชอบกุ้ง เมนูนี้พลาดไม่ได้ เนื้อกุ้งจะผ่านการหมักในซอสโชยุ แต่ก็ไม่ได้เค็มอย่างที่คิด มีความหวานมันนุ่มๆ ไม่ถึงขั้นละลายแต่เคี้ยวง่ายเกิน ตัดกับอูนิที่ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นทะเล และข้าวที่มีความเปรี้ยวเฟรชนิดๆ มินามิมากุโระอาคามิ ราคา 40 บาท ส่วนเนื้อแดงของบลูฟินทูน่าหรือที่ทุกคนรู้จักกันดีว่า อากามิ นั่นเอง รสสัมผัสจะไม่ได้แตกต่างจากอากามิที่เราทานๆ กันสักเท่าไร น่าจะได้ในเรื่องของรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นที่ออกทะเลๆ มากกว่า แนะนำว่าให้ทานวาซาบิตัดเลี่ยนสักหน่อย ส่วนข้าวซูชิสีแดงจะช่วยชูรสชาติของปลาให้ชัดขึ้น โฮตาเตะย่างซอสเมนไทโกะ ราคา 80 บาท ถ้าหากเวอร์ชั่นท๊อปอูนิ ราคาสูงเกินไป เมนูนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน กลิ่นการเผาชัดเจน หอมกลิ่นไข่เมนไทโกะแบบกรุ่นๆ ตัดกับความนุ่มของโฮตาเตะได้เป็นอย่างดี แนะนำว่าต้องทานพร้อมข้าวจะได้ไม่เลี่ยนจนเกินไป หรือตัดด้วยขิงดองสักชิ้น ปลาหมึกมงโกะ ราคา 40 บาท สำหรับใครที่อยากได้ Texture กรึบๆ ต้องสั่งเมนูนี้ ชิ้นนึงจะออกนุ่มๆ เพราะเป็นส่วนเนื้อล้วนและมีความเปรี้ยวของข้าวมาตัดเล็กๆ แต่อีกชิ้น อันนี้จะแล่ส่วนของขอบลูกตาของปลาหมึกมาด้วย ทำให้ได้ความกรึบๆ นั่นเอง ชิราโกะปลาทาระ และ ตับปลาอังคิโมะ ราคา 60 บาท อยากได้อะไรลื่นๆ นุ่มๆ ตัดกับรสสัมผัสอื่นๆ บ้าง ลองเปลี่ยนมาทาน 2 เมนูนี้กัน รสสัมผัสหลักจะเป็นตัววัตถุดิบ ที่มีความมันๆ ตามด้วยความอูมามิจากสาหร่าย และข้าวสีแดงเพื่อไม่ให้เลี่ยนจนเกินไป เป็นเมนูที่ควรค่าแก่การใช้ข้าวสีแดงจริงๆ นอกจากเมนูก่อนหน้านี้ จะสั่งเป็น ซูชิไก่ทอด เอ็นกาวะย่าง แซลมอนดิบหรือเบิร์น กุ้งหวาน มากุโระ และอื่นๆ ก็จะได้ข้าวซูชิสีแดงเช่นเดียวกัน โดยเริ่มต้นเพียง 40 บาทเท่านั้น ผ่านเมนูซูชิกันมาแล้ว ก็มาชิมเมนูซาซิมิครั้งแรกของซูชิโระ โดยจะมีเมนูที่ชื่อว่า Premium Sashimi MORIWASE ราคา 890 บาท มีให้ทานเฉพาะสาขาสยามพารากอนเท่านั้น วัตถุดิบตัวท๊อป 5 อย่างของซูชิโระ ประกอบไปด้วย แซลมอน ทูน่าส่วนอากามิ หอยโฮตาเตะ กุ้งแดงไซส์ใหญ่ และอูนิแบบจุกๆ จิ้มกับโชยุ เติมวาซาบินิดหน่อยก็อร่อยแล้ว ติดแค่เรื่องเดียวคืออูนิเริ่มจะคายน้ำออกมา ทำให้ดูไม่ค่อยน่าทานสักเท่าไร แนะนำความอร่อยโดยการทานซาซิมิ คู่กับอูนิทุกคำ ทุกเมนูที่รีวิววันนี้ เสิร์ฟความอร่อยแล้วที่ Sushiro สยามพารากอนแล้ว อย่าลืมรีบไปชิม ไปสัมผัสความอร่อยจากซูชิสายพานเจ้าดังจากญี่ปุ่น ที่ขยายไปกี่สาขาก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี หากตามมาทานกันแล้ว ก็สามารถมา Comment หรือแชร์ประสบการณ์ที่ได้จากที่นี่ ใน Comment ด้านล่างรีวิวนี้ กดแชร์แบ่งปันรีวิวนี้ให้กับเพื่อนๆ และอย่าลืมกดติดตามผู้เขียนเพื่อไม่ให้พลาดรีวิวร้านอาหารใหม่ๆ และเป็นกำลังใจให้กับทางเพจได้รีวิวต่อๆ ไป 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์